ความสัมพันธ์อินเดีย-จีน
ความสัมพันธ์อินเดีย-จีน
• เพลงประกอบภาพยนตร์ Howrah Bridge (สะพาน Howrah) ฉายในปี 1958 กำกับโดย Shakti Samanta ดารานำคือ Ashok Kumar และ Madhubala
• เพลงนี้ดังกว่าภาพยนตร์ ทั้งคนร้องและคนเต้นมีชื่อเสียงโด่งดังจากเพลงนี้ คนร้องคือ Geeta Dutt ส่วนคนเต้นคือ Helen Ann Richardson Khan ผู้กำกับดนตรีคือ O.P. Nayyar ซึ่งประวัติครอบครัวของ Helen น่าสนใจมาก
• สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเยือนอินเดีย นเรนดรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ต้อนรับประธานาธิบดีจีนได้อย่างสมเกียรติ
• สีจิ้นผิงเยือนอินเดียเพราะเป็นข้อตกลงกันระหว่างอินเดียกับจีนในเรื่องการพบปะกันอย่างไม่เป็นทางการของผู้นำ ภาษาอังกฤษเรียกว่า India-China Informal Summit
• ครั้งแรกเจอกันที่ Wuhan ประเทศจีน เมื่อวันที่ 27-28 เมษายน 2018
ครั้งที่สองพบกันวันที่ 11-12 ตุลาคม 2019 เมืองเชนไน Mamallapuram, Arjuna's Penance, the Pancha Rathas complex and the Shore Temple
• อินเดีย-จีน เคยมีความสัมพันธ์ต่อกันที่ดีมาก ก่อนค่อยๆ ย่ำแย่และนำไปสู่สงคราม ทุกวันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยังคงซับซ้อนไม่น้อย ไหนยังมีเรื่องปากีสถาน เรื่องสหรัฐเข้ามาในบริบทใหม่อีก
• อยากรู้เพิ่มเติม ผมเคยเขียนเรื่องนี้ไว้ในบทความชื่อ "เนห์รูกับนโยบายอาวุธนิวเคลียร์ของอินเดีย ค.ศ. 1947-1964" ตีพิมพ์ในวารสารการเมืองการปกครอง ปี 2014
1. ได้แลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นการพัฒนาประเทศ และเรื่องราวเกี่ยวกับภูมิภาคและโลก
2. ได้ประเมินทิศทางความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี
3. เห็นพ้องต้องกันที่จีนและอินเดียจะช่วยนำสันติภาพมาสู่โลกได้ ช่วยทำให้ทุกประเทศดำเนินตามระเบียบที่มีกฎเกณฑ์กติกา
4. เน้นย้ำฉันทมติที่ Wuhan ว่าทั้งอินเดียและจีนจะควบคุมความแตกต่างระหว่างตนไม่ให้นำไปสู่ความขัดแย้ง ให้มี Special Representatives โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับประเด็นพรมแดน
5. เน้นความพยายามที่จะแก้ปัญหาระดับโลก รวมถึงโลกร้อนและการพัฒนาที่ยั่งยืน
6. ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการก่อการร้าย โดยไม่เลือกปฏิบัติ
7. ส่งเสริมความเข้าใจระหว่างกันสองอารยธรรมใหญ่ของโลก
8. เห็นความสำคัญของ Regional Comprehensive Economic Partnership
9. เห็นความสำคัญของประวัติศาสตร์ด้านความสัมพันธ์เชิงพาณิชย์และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างเมืองคือ Tamil Nadu กับ Fujian Province
10. พัฒนาการสื่อสาร การพบปะระดับสูง และจะมี High-Level Economic and Trade Dialogue
11. ปี 2020 จะเป็นปีของ India-China Cultural and People to People Exchanges ซึ่งปี 2020 จะครบ 70 ปีของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ดังนั้นจะจัด 70 กิจกรรมที่เกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสอง
12. เห็นความสำคัญของ the Wuhan Spirit และ Chennai Connect ประธานาธิบดีจีนได้เชิญนายกอินเดียเพื่อพบปะกันครั้งต่อไปที่จีนในปีหน้า
ยังมีหลายประเด็นที่ทั้งสองยังไม่อาจตกลงกันได้ ที่ทราบจากวงในคือสีจิ้นผิงเกือบไม่มาแล้ว เพราะบางประเด็น รวมถึงการฝึกซ้อมทางทหารของอินเดียใกล้จีน มีหลายประเด็นที่ทั้งสองน่าจะคุยกัน แต่ที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้นประเด็นสำคัญคือ
1. ความใกล้ชิดระหว่างอินเดียกับสหรัฐ โดยเฉพาะเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทรัมป์ต้อนรับโมดีอย่างออกหน้าออกตา
2. ดุลการค้าระหว่างอินเดียกับจีน อินเดียต้องการเข้าถึงตลาดของจีนได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเรื่องยา
3. แคชเมียร์ การประกาศยกเลิกมาตรา 370 และ 35A ของอินเดียในประเด็นแคชเมียร์ ซึ่งเรื่องนี้ทั้งจีนกับปากีสถานเกี่ยวข้องด้วย แต่อินเดียยืนกรานว่าเป็นเรื่องภายในของอินเดีย
4. ปากีสถาน เรื่องการก่อการร้าย อินเดียต้องการให้โลกร่วมกันตีตราเรื่องปากีสถานสนับสนุนการก่อการร้ายต่ออินเดีย แต่จีนลงทุนในปากีสถานไม่น้อย พร้อมเป็นมิตรที่ให้แชร์ความลับเรื่องอาวุธ
5. เรื่องพรมแดนที่เป็นข้อพิพาท
แม้จะไม่ง่าย คือเป็นความสัมพันธ์ที่นักการทูตอินเดียเรียกว่า "Frenemies" เป็นทั้งเพื่อนบ้านและคู่แข่งทางยุทธศาสตร์ ทั้งคู่มีอาวุธนิวเคลียร์ แต่การเจอกันย่อมดีกว่าไม่เจอกัน ที่สำคัญเขาให้คำมั่นสัญญากันว่าจะพยายามเข้าใจกันมากขึ้น ก็ต้องคอยดูกันต่อไป
ประเทศไทยแม้ไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใดเป็นพิเศษ เราญาติดีกับทั้งสองประเทศ แต่เราต้องจัดการตัวเราเอง เพราะสองประเทศนี้จะทวีความสำคัญต่อเรามากขึ้นเรื่อยๆ
รายการปกิณกะอินเดีย
สุรัตน์ โหราชัยกุล และ ณัฐ วัชรคิรินทร์ ศูนย์อินเดียศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย