เอเอฟพี รายงานว่า รัฐมนตรีพลังงานจาก 27 ประเทศสมาชิกของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ซึ่งประชุมกันในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม บรรลุข้อตกลงเรื่องการตรึงราคาขายส่งก๊าซธรรมชาติภายในกลุ่มอียูไว้ที่ 180 ยูโร(หรือ 6,671 บาท)ต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh)เป็นเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 คาดว่า มาตรการนี้จะช่วยลดความเดือดร้อนให้กับผู้บริโภคในยุคน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีราคาแพง หลังจากรัสเซียบุกยูเครน ขณะเดียวกัน อียูมอบหมายให้คณะกรรมาธิการยุโรป(EC)ในฐานะองค์กรฝ่ายบริหารของกลุ่มอียู มีอำนาจสั่งให้ระงับมาตรการนี้ได้ในอนาคต ถ้าหาก EC ประเมินแล้วเห็นว่า มาตรการนี้มีข้อเสียมากกว่าข้อดีในระยะยาว
ขณะเดียวกัน ประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ของกลุ่มอียู แสดงความรู้สึกกังวลว่า พวกเขาอาจจะดำเนินการอย่างยากลำบากในการจัดซื้อก๊าซธรรมชาติจากแหล่งผลิตอื่นๆมาเติมคลังก๊าซสำรองรองรับการใช้งานในฤดูหนาวปีหน้า ทั้งนี้ ก่อนบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 รัสเซีย เป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่สำหรับกลุ่มอียู ต่อมารัสเซียได้หยุดการส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังประเทศสมาชิกอียูชั่วคราว เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากกลุ่มอียู โดยกลุ่มอียูมุ่งจะลดรายได้จากธุรกิจพลังงานมาใช้จ่ายสำหรับการส่งกำลังทหารไปปฏิบัติการสู้รบในยูเครน
นายดมิตรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย แสดงความไม่พอใจ ทักท้วงทันทีว่า มาตรการตรึงราคาก๊าซดังกล่าวเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ อีกทั้งบิดเบือนกลไกตลาด และเมื่อวันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2565 รัสเซียจะไม่ส่งออกน้ำมันดิบไปยังกลุ่มประเทศจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียที่ขนส่งทางทะเลเอาไว้ที่ระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
27 ประเทศ EU บรรลุข้อตกลงตรึงราคาก๊าซธรรมชาติภายใน EU เป็นเวลา 1 ปี
- ข่าวต้นชั่วโมง