ธนาคารโลก คาดการณ์เศรษฐกิจจีนเติบโตลดลงเหลือ 2.7%

- ข่าวต้นชั่วโมง


ธนาคารโลกประกาศปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในวันที่ 20 ธันวาคม ลงเหลือ 2.7% จาก 4.3% ในเดือนมิถุนายน และยังปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีหน้าจาก 5.2% ลงเหลือ 4.3% ด้วยเช่นกัน

ธนาคารโลกให้เหตุผลในการปรับลดการเติบโตของเศรษฐกิจจีนว่าเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และความอ่อนแอของภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกอย่างมีนัยสำคัญ

“กิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีนยังคงปรับตัวขึ้นลงตามการแพร่ระบาด ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคและการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ยังทำให้เกิดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ไม่คงเส้นคงวา” ธนาคารโลกระบุ

แถลงการณ์ของธนาคารโลกบอกด้วยว่า การเติบโตของจีดีพีจีนน่าจะอยู่ในระดับ 2.7% ในปีนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวเป็น 4.3% ในปีหน้า หลังจากมีการเปิดเศรษฐกิจใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ดี ตัวเลขของธนาคารโลกนั้นต่ำกว่าเป้าหมายจีดีพีของจีนในปีนี้ที่คาดการณ์การเติบโต้ไว้ที่ 5.5% ในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าไม่น่าจะบรรลุเป้าหมายได้
หลังจากการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นมาหลายปี จีนได้ผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม การทดสอบรวมถึงการกักตัวอย่างจริงจัง และข้อจำกัดในการเดินทางต่างๆ แต่ธุรกิจยังคงประสบภาวะชะงักงันต่อไป เนื่องจากประชาชนจำนวนมากยังคงหวั่นเกรงที่จะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ท่ามกลางตัวเลขการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับเลขทางการที่ลดลงเนื่องจากรัฐบาลระบุว่า ไม่สามารถติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อได้อีกต่อไป

มารา วอร์วิค ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำประเทศจีน มองโกเลีย และเกาหลีใต้ กล่าวว่า การปรับนโยบายโควิด-19 อย่างต่อเนื่องของจีนมีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งเพื่อลดความเสี่ยงด้านสาธารณสุขและเพื่อลดการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจในอนาคต

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่า มีแนวโน้มที่ไอเอ็มเอฟจะปรับลดประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจจีนอีกครั้ง เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ในเดือนตุลาคม ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในเดือนตุลาคมเหลือ 3.2% ในปีนี้ ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปี และคาดว่าในปีหน้าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตขึ้น 4.4%

0 results

(Live)