เพลง Aana Jana Laga Rahega
แปลเป็นไทยก็จะประมาณว่า มาแล้วไปก็ดำรงต่อไป เพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ Geraftaar ฉายในปี ค.ศ. 1985 กำกับโดยประยาค ราช (Prayag Raaj) ดารานำก็เช่นอมิตาภ บัจจัน (Amitabh Bachchan) กะมาล ฮาซัน (Kamal Haasan) ราชินิกัณฐ์ (Rajinikanth) มาธวี (Madhavi) ปูนัม ดิลลอน (Poonam Dhillon) คนร้องเพลงนี้คือบัปปี ลาหิริ (Bappi Lahiri)
Aana Jana Laga Rahega
มาแล้วไปก็ดำรงต่อไป
Dukh Jaayega Sukh Aayega
ทุกข์หายไป สุขก็มา
Karega Jo Bhi Bhalayi Ke Kaam
ใครทำอะไรดีไว้
Usaka Hi Naam, Reh Jaayega
ชื่อของเขาก็คงไว้ตลอดไป
นายรตัน นวัล ทาทา (นาที 4.15)
นายรตัน นวัล ทาทา (Ratan Naval Tata) บุคคลสำคัญของอินเดีย เพิ่งอำลาจากโลกไปเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2024 ก่อนจะเข้าเรื่องของคุณรตัน ทาทา ใคร่บอกท่านผู้ฟังก่อนว่า จริง ๆ แล้ว นามสกุลของคุณรตันจะออกเสียงว่า ฏาฏา ไม่ใช่ ทาทา แต่เนื่องจากคนไทยคุ้นเคยกับเสียงทาทากันอยู่แล้ว ก็จะขอใช้ ทาทา ตลอดทั้งรายการรตัน ทาทา ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในสองด้านด้วยกัน ด้านแรกคือด้านการบริหารจัดการกลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ อีกด้านหนึ่งคือด้านจรรยาบรรณส่วนตัวและกิจกรรมการกุศล
รตัน ทาทา ในด้านบริหารจัดการธุรกิจ
รตัน ทาทา เข้ามาบริหารจัดการกลุ่มธุรกิจของทาทาในปี ค.ศ. 1991 ในเวลานั้นรายได้ต่อปีของกลุ่มธุรกิจอยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตอนเขาปลดเกษียณในปี ค.ศ. 2012 ตัวเลขดังกล่าวพุ่งสูงขึ้นถึงประมาณ 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯรตัน ทาทา ร่วมงานกับอุตสาหกรรมทาทาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1962 ในเวลานั้นเป็นเพียงผู้ช่วย และต้องเข้าไปทำงานกับแรงงานในการผลิตเหล็ก ซึ่งประสบการณ์นี้สำคัญมากเพราะประสบการณ์นี้ทำให้เขามีความเข้าใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับผู้คนที่ขับเคลื่อนการเติบโตทางอุตสาหกรรมของอินเดีย ที่สำคัญคือทำให้เข้าใจหัวอกของแรงงานที่จะต้องทำงานหนักเพื่อมีความมั่นคงทางรายได้
ในเดือนมีนาคมปี ค.ศ. 1991 รตัน ทาทาก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธาน กล่าวคือใช้เวลาทั้งหมด 29 ปี ก่อนจะขึ้นเป็นประธาน
ปีสำคัญปีหนึ่งของอินเดียคือปี ค.ศ. 1991
เพราะปีนี้คือปีทีรัฐบาลอินเดียยกเครื่องการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งสำคัญ นั่นคือ ขอโบกมืออำลาจากหลักเศรษฐกิจสังคมนิยมแบบเนห์รูไปสู่การให้เอกชนเข้ามามีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ ปี ค.ศ. 1991 เป็นปีที่เรียกว่าการทำให้เศรษฐกิจอินเดียเสรี หรือที่ใช้ภาษาอังกฤษว่า economic liberalizationสาเหตุที่ต้องเน้นย้ำเรื่องปี ค.ศ. 1991 ก็เพราะว่าเป็นปีที่รตัน ทาทาก้าวขึ้นมาเป็นประธาน ดังนั้นผู้ฟังก็คงจินตนาการได้ว่า หลังจากปี ค.ศ. 1991 อินเดียก็จะเปลี่ยนแปลงตามมาอีกมากมาย สภาพแวดล้อมของธุรกิจก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
การนำธุรกิจของทาทาโดยรตัน ทาทา เริ่มชัดเจนขึ้น คือแตกต่างจากเดิม
เมื่อรตัน ทาทา ตัดสินใจเดินหน้าปรับโครงสร้าง และขายส่วนธุรกิจที่มีผลประกอบการต่ำ เช่น ซีเมนต์ สิ่งทอ และยา บริษัทเปลี่ยนมามุ่งเน้นที่การเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจด้านซอฟต์แวร์และเหล็ก และลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ เช่น โทรคมนาคม รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ประกันภัย การเงิน การค้าปลีก และการบินที่เห็นชัดอีกคือ กลุ่มทาทาโดยการนำของรตัน ทาทา ได้ริเริ่มความร่วมมือระหว่างประเทศที่สำคัญกับบริษัทต่าง ๆ เช่น Cummins, AIA และ Starbucks นอกจากนี้ก็ซื้อกิจการสำคัญ ได้แก่ Tetley, Corus และ Jaguar Land Rover, และ เมื่อสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งของรตัน ทาทาในปี ค.ศ. 2012 รายได้มากกว่าร้อยละ 60 ของกลุ่มมาจากการดำเนินงานในกว่า 100 ประเทศ
การซื้อบริษัท 3 แห่งโดยการตัดสินใจของรตัน ทาทา
ตัวอย่างแรกคือบริษัท Tetley ที่กลุ่มธุรกิจทาทาซื้อในปี ค.ศ. 2000 บริษัท Tetley เป็นบริษัทของอังกฤษมีชื่อเสียงโด่งดังด้านการจำหน่ายชา กลุ่มทาทาซื้อกิจการชายักษ์ใหญ่นี้ด้วยมูลค่า 450 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการซื้อกิจการครั้งใหญ่ในต่างประเทศครั้งแรกโดยบริษัทอินเดียในปี ค.ศ. 2007 รตัน ทาทาซื้อกิจการบริษัท British Dutch ชื่อ Corus ในมูลค่า 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซื้อเสร็จก็รวมไว้ใน Tata Steel
ในปี ค.ศ. 2008 รตัน ทาทาเดินหน้าซื้อ Jaguar Land Rover เปลี่ยนทาทามอเตอร์สให้กลายเป็นบริษัทยานยนต์ระดับโลก ด้วยการซื้อกิจการแบรนด์รถยนต์ชื่อดังของอังกฤษเหล่านี้ด้วยมูลค่า 2,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ที่กล่าวมา ไม่ว่าจะร่วมมือกับบริษัทต่างประเทศหรือซื้อบริษัทต่างประเทศ ล้วนแต่บ่งบอกวิสัยทัศน์ของรตัน ทาทา ความร่วมมือกับบริษัทต่างประเทศในด้านต่าง ๆ บ่งบอกว่าเขารู้แล้วว่าอะไรคืออนาคตของธุรกิจ กิจการใดที่จะเจริญรุ่งเรือง ความร่วมมือดังกล่าวยังหมายถึงการใช้ระบบธุรกิจที่บริษัทต่างชาติเหล่านี้ชำนาญอยู่แล้ว ทั้งหมดหมายถึงการแข่งขันกับเวลา ยิ่งอินเดียเหยียบคันเร่งปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องยิ่งเวลาเหลือน้อยเต็มที ความร่วมมือเหล่านี้ล้วนบ่งบอกอย่างขัดเจนว่าวิสัยทัศน์ของเขาชัดเจนและแม่นยำมาก
การซื้อบริษัทต่างชาติทั้งสามแห่ง ได้แก่
(1) Tetley ในปี ค.ศ. 2000
(2) Corus ในปี ค.ศ. 2007
(3) บริษัท Jaguar Land Rover ในปี ค.ศ. 2008
ทำให้บริษัททาทามีช่องทางสู่ตลาดใหม่ ทำให้บริษัททาทากลายเป็นคู่แข่งระดับโลก ทำให้บริษัททาทามีตลาดที่ใหญ่กว่าเดิม และทำให้บริษัททาทาชนะใจแรงงานในต่างประเทศด้วย
เช่น ชา Tetley ทำให้ทาทาเข้าสู่ตลาดเครื่องดื่มระดับโลก สำหรับ Corus และ Jaguar Land Rover ทำให้ทาทากลายเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลก และชนะใจทั้งรัฐบาลอังกฤษ สังคมอังกฤษ และแรงงานอังกฤษ เพราะไม่มีทาทา Corus และ Jaguar Land Rover ก็ตกอยู่ในภาวะการเงินที่ไม่ค่อยดีนัก กล่าวคือทาทาเข้าไปฟื้นคืนชีพบริษัทเหล่านี้ ในกรณี Jaguar Land Rover ก็ทำให้ทาทามอเตอร์กลายเป็นบริษัทผลิตรถยนตร์ที่สำคัญของโลกไปด้วย
ในช่วงที่รตัน ทาทานำเครือทาทาทั่วโลก เขาต้องเผชิญความท้าทายไม่น้อย ความท้าทายพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีอะไรบั่นทอนภาวะผู้นำของรตัน ทาทา ได้
ปี ค.ศ. 2008 รถยนต์ Tata Nano ในราคา 100,000 รูปีต่อคันไม่ประสบความสำเร็จ ทว่าเห็นได้อย่างชัดเจนว่า การสร้างรถยนต์ Tata Nano แม้จะไม่ประสบความสำเร็จด้วยเหตุผลนานาประการ แต่เป็นการมุ่งไปยังความต้องการของประชาชน เมื่อไม่ประสบความสำเร็จ เขาจึงรีบทบทวนแผนและยุทธศาสตร์เพื่อปรับปรุงให้บริษัทผลิตรถยนต์ได้ตามความต้องการของประชาชนในปี ค.ศ. 2008 เช่นกันที่มุมไบถูกโจมตีโดยกลุ่มก่อการร้ายจากปากีสถาน หนึ่งในสถานที่สำคัญที่กลุ่มก่อการร้ายเลือกโจมตีคือโรงแรมตาชมะฮัล พาเลซ (Taj Mahal Palace Hotel) ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือธุรกิจทาทา รตัน ทาทา ไม่ใช้เวลามากที่จะออกมาบอกว่า จะรีบฟื้นฟูและมั่นใจได้เลยว่าโรงแรมประวัติศาสตร์แห่งนี้จะแข็งแกร่งกว่าเดิม ซึ่งเรื่องนี้เราเคยนำมาออกรายการปกิณกะอินเดียแล้ว
การทำธุรกิจไม่ใช่การแสวงหากำไรแต่อย่างเดียว ต้องแบ่งปันด้วย
ในฐานะผู้นำกลุ่มธุรกิจทาทาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991-2012 มรดกตกทอดที่รตัน ทาทา ได้ทิ้งไว้คือ ไม่ใช่แค่ความสำเร็จทางธุรกิจที่สูงตระหง่านเท่านั้น แต่การหยั่งรากลึกของหลักการที่ว่า การทำธุรกิจไม่ใช่การแสวงหากำไรแต่อย่างเดียว ต้องแบ่งปัน คนที่ทำงานให้เราต้องกินดีอยู่ดี ชุมชนคือธุรกิจ ธุรกิจคือชุมชน ดังที่ชมเศทยี ทาทา (Jamshetji Tata) ผู้บุกเบิกธุรกิจทาทาและบรรพบุรุษของรตัน ทาทา ได้เคยทิ้งหลักการสำคัญนี้ไว้ดังนั้นเวลาเราพูดถึงมหาเศรษฐีอินเดีย จะสังเกตเห็นได้ว่า ชื่อรตัน ทาทา ไม่เคยติดอยู่ในอันดับต้น ๆ เลย ตาม “Hurun India Rich List” ปี ค.ศ. 2022 รตัน ทาทาอยู่ในอันดับที่ 421
รตัน ทาทา ในฐานะประธานของธุรกิจทาทาได้มอบทรัพย์สินของตนให้แก่กองทุนทาทา (Tata Trusts) ซึ่งถือหุ้นสองในสามของ Tata Sons ประมาณร้อยละ 60 ของเงินปันผลจาก Tata Sons จะจัดสรรให้แก่กิจกรรมการกุศล
การกุศลที่ทาทาได้ทำไว้นั้นมากมาย และเราอาจจะต้องใช้เวลา 2-3 ตอนเพื่อพรรณนาให้ครบหมด ดังนั้นแล้ว ด้วยเวลาที่จำกัดขอยกตัวอย่างพอให้เห็นภาพ เช่น การช่วยเหลือชาวซิกข์ในกรณีปี ค.ศ. 1984, Tata Education and Development Trust, Executive center at Harvard Business School, Tata Innovation Center at Cornell Tech, Indian Institute of Technology, Indian Centre for Neuroscience, MIT Tata Center of Technology and Design, Cornell University การสถาปนากองทุนช่วยเหลือเหยื่อการก่อการร้ายในปี ค.ศ. 2008 ฯลฯ
ตอนนี้ท่านผู้ฟังคงเข้าใจแล้วว่าทำไมเราเลือกเปิดเพลง “Aana Jana Laga Rahega" กล่าวคือ ความดีของเขา ไม่ใช่สักแต่ทำธุรกิจใหญ่โตแล้วจะเก็บเงินไว้เพื่อความสุขสำราญส่วนตัว ต้องนึกถึงผู้อื่นด้วย
ชาวปาร์ซีที่หนีร้อนมาพึ่งใบบุญอินเดียเพราะถูกกดขี่ บัดนี้ได้กลายเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ร่วมสร้างชาติอินเดียอย่างสำคัญยิ่ง ไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศอินเดียเขาก็คือหน้าตาของอินเดีย และบ่อยครั้งด้วยที่เวลาเขาพูดเรื่องอะไรต่อมิอะไร เราจะสกัดความรักชาติอินเดียของเขาออกมาได้อย่างชัดเจน
ประวัติรตัน ทาทา
เกิดวันที่ 28 ธันวาคม ปี ค.ศ. 1937 บ้านเกิดของเขาคือบอมเบย์ (Bombay) ปัจจุบันคือมุมไบ (Mumbai)รตัน ทาทาเป็นบุตรชายของนวัล ทาทา ซึ่งเป็นลูกบุญธรรมของรตันยี ทาทา ซึ่งเป็นบุตรชายของชมเศทยี ทาทา ผู้ก่อตั้ง Tata Group
ในวัยเยาว์รตัน ทาทา ต้องเผชิญกับความท้าทายตั้งแต่เนิ่น ๆ เมื่อพ่อแม่เขาแยกทางกัน ดังนั้นบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อชีวิตเขามากที่สุดคนหนึ่งคือคุณย่าที่มีนามว่านวัชบาย ทาทา (Navajbai Tata) เท่าที่ผมอ่านและดูคลิปสัมภาษณ์ของรตัน ทาทา เขาจะกล่าวถึงคุณย่าอยู่บ่อยครั้งมาก
เขามีน้องชายจิมมี่ ทาทา (Jimmy Tata) และน้องชายต่างมารดาชื่อ โนเอล ทาทา (Noel Tata) จากการแต่งงานครั้งที่สองของนวัล ทาทากับแม่เลี้ยงของรตัน ทาทาชื่อ ซิโมน ทาทา (Simone Tata)
รตัน ทาทาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์จากวิทยาลัยสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยคอร์เนล
รตัน ทาทาได้รับรางวัลและเกียรติยศทั้งในอินเดียและนอกอินเดียมากมาย ผมลองนับเล่น ๆ ดูก็ประมาณ 30 รางวัลและดุษฎีกิตติมศักดิ์ คงนำมาเล่าให้ผู้ฟังไม่ได้ ไม่งั้นก็จะหมดเวลาเสียก่อน ที่ควรบอกคงหนีไม่พ้นปัทมภูษัณ (Padma Bhushan ในปี ค.ศ. 2000) และปัทมวิภูษัณ (Padma Vibhushan ในปี ค.ศ. 2008)
ด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับวัยชรา รตัน ทาทา เข้าออกโรงพยาบาลมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว และวันที่ 9 ตุลาคม 2024 ประมาณเวลา 4 ทุ่มเวลาบ้านเรา รตัน ทาทาก็อำลาจากโลกไปด้วยอายุ 86 ปี
•
รายการปกิณกะอินเดีย วันเสาร์ 10.30 น. Chula Radio
รศ.สุรัตน์ โหราชัยกุล ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ และ ศูนย์อินเดียศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ณัฐ วัชรคิรินทร์ นักวิชาการอิสระ