วันที่ 3 ธันวาคม 2563
วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งสหรัฐ 2020 : ภาพสะท้อนสังคมอเมริกันบนเส้นทางประชาธิปไตย
[1] แม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะแพ้การเลือกตั้ง แต่ทรัปม์ก็ยังเป็นพลังสำคัญ (Powerful force) ในการเมืองอเมริกัน ไม่มีใครรู้ว่าอีกสี่ปีข้างหน้าจะลงเลือกตั้งอีกครั้งหรือไม่ รวมไปถึง Legacy หรือสิ่งที่ทรัมป์ทิ้งไว้เป็นมรดกทางการเมืองอเมริกันสาหัสและยับเยิน
[2] แม้โจ ไบเดนจะชนะ แต่จะสามารถนำอเมริกากลับไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยได้หรือไม่ เพราะสี่ปีที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ทำลายรากฐานสำคัญของประชาธิปไตยไปไม่น้อย
[3] สี่ปีที่ผ่านมา แม้คนจะกล่าวโทษทรัมป์เยอะเรื่องประเด็นความแตกแยกในสังคมอเมริกัน แต่อันที่จริง รากฐานความแตกแยกเกิดมาก่อนหน้านั้นนานแล้ว ไม่ได้เกิดแค่ในสมัยที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
[4] ผลการเลือกตั้งส่งผลอย่างไรต่อการเมืองภายในอเมริกันและส่งผลต่อโลกด้วย
Election 2020 | ภาพ:
https://www.kimt.com/• โจ ไบเดน ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างไม่เป็นทางการ 14 ธันวาคม 2020 จะมีการลงคะแนนเสียง Electoral College อย่างเป็นทางการ จากนั้นประธานาธิบดีคนใหม่จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งวันที่ 20 มกราคม 2021
• ตอนแรกคาดการณ์กันว่าโจ ไบเดน จะได้คะแนนเสียง Electoral College ถล่มทลาย แต่ผลกลับไม่เป็นเช่นนั้น
• แม้ประธานาธิบดีมาจากพรรคเดโมแครต สภาล่าง (House) เป็นของเดโมแครต สภาสูง (Senate) น่าจะเป็นของรีพับลิกัน (ต้องรอลุ้นผลรัฐจอร์เจียวันที่ 5 มกราคม 2021) แต่ประเด็นคือคะแนนไม่ขาดกันเท่าไร จะส่งผลต่อคะแนนเสียงในสภาคองเกรส ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการออกกฎหมาย
• ผลการเลือกตั้งครั้งนี้น่าสนใจตรงที่คนไปลงคะแนนเสียงล้นหลามมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งคนที่ชนะและแพ้ (ไบเดนและทรัมป์) ต่างได้คะแนนเสียงมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์
• ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ทรัมป์มีส่วนทำให้คนตื่นตัว คนที่สนับสนุนทรัมป์หัวปักหัวปำก็มา คนที่ต่อต้านก็ออกมาเต็มที่
• สิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์ทิ้งไว้ให้สหรัฐอเมริกาตอนนี้สาหัสและยับเยินมาก ทรัมป์ทำให้สถาบันประธานาธิบดีกลายเป็นสถาบันส่วนตัว ทำลายความไว้วางใจของผู้คนที่มีต่อกระบวนการประชาธิปไตย จากการที่เอาตัวเองเป็นที่ตั้งมาตลอด
• การโกงการเลือกตั้งทางไปรษณีย์อย่างที่ทรัมป์กล่าวหา จริงๆ แล้วโกงกันได้ยากมาก บัตรเลือกตั้งอเมริกาใบเดียว มีสองหน้า เลือกหลายอย่าง ผลสำรวจจาก MIT การเลือกตั้งทางไปรษณีย์ทั้งหมด 25 ครั้ง มีความผิดพลาดเพียง 0.0006%
• การที่ทรัมป์โกหกบรรดาผู้สนับสนุนว่ามีการโกงการเลือกตั้ง แล้วบางส่วนก็เชื่อ ภายหลังคนจากพรรครีพับลิกันออกมาบอกว่า ทรัมป์ประณามผู้สนับสนุนของตัวเองว่าโง่ เชื่อในสิ่งที่เขาโกหก จริงๆ แล้วทรัมป์ไม่ใช่คนโง่ ทำไมจะไม่รู้ว่าไม่มีการโกงเกิดขึ้น แล้วทรัมป์พูดอย่างนั้นออกไปทำไม
• ที่ต้องชื่นชมในการเลือกตั้งครั้งนี้คือ บทบาทของสื่อที่ระมัดระวังการนำเสนอ และกลไกการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นของแต่ละมลรัฐ
• ทรัมป์กำลังทำให้กระบวนการเปลี่ยนผ่านอำนาจ (ที่ควรเป็นไปอย่างสันติ) ไม่ราบรื่น เร้าอารมณ์ให้ฝ่ายที่สนับสนุนเขาออกมาประท้วงและใช้อาวุธ ซึ่งผิดกฎหมาย ต้องบอกว่าทรัมป์มีความสามารถในการไม่ปฏิบัติตามกฎกติกา
• อาจเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ 200 กว่าปีที่ประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งไม่มาถ่ายโอนอำนาจอย่างเป็นทางการในวัน Inauguration (วันที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง)

• สังคมอเมริกันมีประเด็นเรื่องความแตกแยกมานานแล้ว แต่สี่ปีภายใต้การนำของทรัมป์และผลการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ตอกย้ำภาพสะท้อนความแตกร้าวให้เห็นชัดขึ้น
• สหรัฐอเมริกามีความแตกต่างและช่องว่างระหว่างคนเมืองกับคนชนบทอยู่มาก ไม่ใช่แค่ด้านการศึกษา แต่รวมถึงความเชื่อ ศาสนาและวัฒนธรรม โยงไปถึงการเลือกพรรครีพับลิกันหรือเดโมแครต
• คนเมืองเลือกพรรคเดโมแครต คนชนบทเลือกพรรครีพับลิกัน (ทั้งที่ในอดีตจะสลับกัน) พรรคเดโมแครตสูญเสียความไว้วางใจจากคนชนบท เพราะพวกเขารู้สึกว่าถูกทิ้งไว้ข้างหลัง มีคำหนึ่งที่ใช้อธิบายปัญหาของพรรคเดโมแครต นั่นคือ Politcal cultural elite
• เจตนารมณ์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญสหรัฐ ไม่ต้องการให้ฝ่ายบริหาร (ประธานาธิบดี) มีอำนาจมากเกินไป ประธานาธิบดีจึงไม่ได้มีอำนาจมากอย่างที่คนเข้าใจ ข้อดีคือเกิดการถ่วงดุลอำนาจ ยากต่อการใช้อำนาจเด็ดขาด แต่ข้อเสียคือทำให้การออกนโยบายหรือออกกฎหมายจากทางฝั่งประธานาธิบดีมีข้อจำกัด
• ระบบการเมืองสหรัฐที่เป็นแบบนี้ ส่วนหนึ่งมาจากระบบเลือกตั้งที่ทำให้เสียงในชนบทมีอิทธิพลมากกว่าเสียงของคนในเมือง ประเด็นนี้จะโยงไปสู่ที่นั่งของพรรครีพับลิกันในสภาสูง (Senate)
• การตีความรัฐธรรมนูญของผู้พิพากษาศาลสูงสุด 2 คน ในเรื่องการชุมนุมระหว่างการระบาดของโควิด-19 เสรีภาพหรือการละเมิดสิทธิ?

• ทั้งสองพรรคใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือในการตัดสิน แม้คนจะมองว่าอเมริกาถดถอยในเรื่องระบบประชาธิปไตย แต่ทั้งสองฝ่ายต่างใช้การเลือกตั้งและการตัดสินใจลงคะแนนเป็นตัวตัดสิน
• Rule of Law เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประชาธิปไตยมั่นคงและยั่งยืน ผู้เล่นในเกมการเมืองต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนหันมานิยมผู้สมัครของตัวเอง ไปวิเคราะห์ศึกษาหาแนวทาง ปรับนโยบาย ไม่ใช่ไปหาตัวช่วยอย่างอื่นมาทำลายระบบ ตัวอย่างจากคนที่ไม่ชอบทรัมป์ อดใจรอมาสี่ปี เพื่อมาลงคะแนนเสียงตัดสินในการเลือกตั้งครั้งนี้
• สิ่งสำคัญคือ ประชาชนต้องมีสำนึกในการนำพาประเทศชาติไปในทิศทางที่พวกเขาคิดว่าถูกต้อง
• แม้จะเป็นคนจากพรรคเดียวกันหรือถูกแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีทรัมป์ เช่น ผู้ว่าการรัฐ ผู้พิพากษา ทหาร ก็ไม่ยอมทำตามสิ่งที่ทรัมป์บอกให้ทำ แสดงถึงการยึดมั่นในหลักการที่อยู่เหนือผลประโยชน์และอุดมการณ์ของพรรค แสดงถึงประชาธิปไตยที่ไม่ละเมิดและเคารพกฎกติกา
"เราสาบานตนต่อรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง"

• คำถามสำคัญสำหรับไบเดนคือ จะสามารถกอบกู้ความเชื่อมั่นของสถาบันประธานาธิบดีและระบบประชาธิปไตย รวมถึงประสานรอยร้าวในสังคมอเมริกันได้ไหม
• แม้ระบอบประชาธิปไตยจะเยียวยาตัวเองได้ระดับหนึ่ง (ในระดับสถาบันทางการเมือง) แต่ก็ไม่มั่นใจว่าไบเดนจะเยียวยารอยปริทางอารมณ์ของคนได้ เห็นได้จากผลการเลือกตั้ง สว. ยังเป็นของรีพับลิกัน ขณะที่ สส. ก็ได้จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนอารมณ์ภายในของผู้คน เพียงแต่ในแง่ผู้นำ (ประธานาธิบดี) คนแค่รู้สึกว่าทรัมป์ไม่ไหวแล้ว เราไม่สามารถมีผู้นำแบบนี้ได้อีกต่อไป
• ยังมีปัญหาสำคัญในการเมืองสหรัฐ นั่นคือ ช่องว่างระหว่างความคิดและโอกาสของคนชนบทกับเมืองที่กว้างมากขึ้น หรือแม้แต่ Conservative กับ หัวก้าวหน้า ซึ่งหลายคนไม่คิดว่าจะเกิดในสหรัฐอเมริกา

• เดิมที คนคิดว่าต้องให้คนฝ่ายซ้ายจัด (เช่น เบอร์นี แซนเดอร์ส) มาสู้ จึงจะชนะทรัมป์ได้ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า อเมริกาต้องการคนกลางๆ ยังไม่พร้อมที่จะสุดโต่งไปทางหนึ่งทางใด โจ ไบเดนจึงได้รับผลพลอยได้ในข้อนี้ ขณะเดียวกันยังพบว่า คนอเมริกันหลายกลุ่มยังกลัวคำว่า Socialist หรือสังคมนิยม
• เราศึกษาสังคมและระบอบประชาธิปไตยจากสหรัฐ เพราะอาจเป็นประโยชน์ต่อการเข้าใจสังคมไทยของเรา
• มีความคาดหวังว่า ไบเดนจะสามารถนำสหรัฐกลับเข้าสู่พหุพาคี ทำให้สหรัฐกลับมาผงาดและมีความน่าเชื่อในฐานะผู้รักษาระเบียบโลก
• ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีน มีตัวละครสำคัญคือ ไต้หวัน เนื่องจากในสมัยประธานาธิบดีทรัมป์ ทรัมป์ต้องการกดดันจีน จึงหันมาให้ความสำคัญกับไต้หวัน ขณะเดียวกันในภูมิภาคก็มองไต้หวันเป็นสัญลักษณ์ของการเรียกร้องประชาธิปไตย น่าสนใจว่า ในยุคไบเดนจะยังคงให้ความสำคัญกับไต้หวันแบบเดียวกับทรัมป์หรือไม่
• ไบเดนจะกลับมาให้ความสำคัญกับ Climate Change ซึ่งเป็นสิ่งที่โลกให้ความสำคัญ
• ไบเดนให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลของเขาจะไม่ใช่รัฐบาลโอบามา 3 เพราะโลกปัจจุบันเปลี่ยนไปจากสมัยโอบามาแล้ว
_________________
รายการรัฐศาสตร์สู่สังคม
ศาตราจารย์กิตติคุณ ดร.ไชยวัฒน์ ค้ำชู และ ผศ.ดร.ปราณี ทิพย์รัตน์ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี หัวหน้าภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย