[1] COP26 ความหวังและโอกาสสุดท้ายแก้วิกฤตโลกร้อน (นาที 2:25)
[2] ASEAN Summit กับปัญหาเมียนมา (นาที 32:15)
[3] ไต้หวัน: ชนวนสงครามจีน-สหรัฐ? (นาที 53:25)
[1] COP26 ความหวังและโอกาสสุดท้ายแก้วิกฤตโลกร้อน (นาที 2:25)
[2] ASEAN Summit กับปัญหาเมียนมา (นาที 32:15)
[3] ไต้หวัน: ชนวนสงครามจีน-สหรัฐ? (นาที 53:25)
• การแสดงวิสัยทัศน์ของผู้นำว่ามีจุดยืนและแผนปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Change อย่างไร เพราะเป็นเรื่องความเป็นความตายของมนุษยชาติ ไม่มีประเทศใดเลี่ยงผลกระทบนี้พ้น
• 20 ประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกต้องมีความจริงจังในการแก้ไขปัญหา เพราะปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมกัน 80% ของโลก (มีประชากรรวมกัน 60% ของโลก มีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจรวม 80% ของจีดีพีโลก)
• ผู้นำประเทศเหล่านี้ต้องเป็นแบบอย่างและมีความรับผิดชอบในการช่วยเหลือประเทศที่กำลังพัฒนาในช่วงเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานถ่านหินเป็นพลังงานทางเลือก เพื่อให้ประเทศกำลังพัฒนาเหล่านี้มีโอกาสพัฒนาเศรษฐกิจด้วย อย่าลืมว่าประเทศร่ำรวยใช้พลังงานถ่านหินมาก่อนและสร้างปัญหาสะสมมาก่อน จึงควรให้ความช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา
• จีนปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก อันดับสองคือสหรัฐ
Alok Sharma ประธาน COP26 เตือนให้เอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหา Climate Change การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสสุดท้ายและโอกาสดีที่สุด เพราะหากไม่มีข้อตกลงเรื่องแผนปฏิบัติการและการลงมือทำที่ชัดเจนในเรื่องชะลอการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ ก็ไม่ต่างจากการขุดหลุมฝังตัวเองร่วมกัน
• การไม่ปรากฏตัวในที่ประชุม COP26 ของผู้นำจีน สี จิ้นผิง มีนัยยะทางการเมืองอะไรหรือไม่
• สารของสี จิ้นผิง แม้ไม่ละทิ้งเป้าหมายเรื่องการแก้ไขปัญหา Climate Change แต่ก็พูดเพียงหลักการกว้างๆ ไม่มีรายละเอียดชัดเจน ซึ่งน่าผิดหวัง เพราะจีนเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก
• ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตอกย้ำว่าสหรัฐต้องมีความรับผิดชอบเพราะเป็นตัวการสำคัญ และอยากมาแก้ไขจากสี่ปีที่แล้วที่สมัยอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ถอนตัวจากเรื่องนี้ ทำให้สหรัฐไม่มีส่วนช่วยอะไรเลย
• มีเรื่องการเมืองภายในสหรัฐ และเป็นอุปสรรคที่ทำให้ไม่สามารถผ่านกฎหมายได้ นั่นคือ Joe Manchin วุฒิสมาชิกจากรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นรัฐที่ปล่อยมลพิษมากที่สุดรัฐหนึ่งในสหรัฐ เขาได้รับผลประโยชน์จากกลุ่มอุตสาหกรรมถ่านหิน จึงไม่ยอมผ่านกฎหมายนี้
จนถึงวันนี้ยังมีคนไม่เชื่อเรื่อง Climate Change ว่าเกิดขึ้นจริง รู้ได้อย่างไรว่าเป็นผลจากน้ำมือมนุษย์จริง รู้ได้อย่างไรว่านักวิทยาศาสตร์พูดจริง รู้ได้อย่างไรว่ามีจริง
_________________________
• ประเด็นหลักยังคงเน้นเรื่องการจัดการวิกฤตโควิดและปัญหาเศรษฐกิจที่ตามมา
• ทำไมอาเซียนตัดสินใจไม่เชิญผู้นำทางทหารของเมียนมาเข้าร่วมประชุม
• เมียนมาได้ละเมิดกฎกติกาในกฎบัตรอาเซียนข้อใด
• เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อาเซียนที่ไม่เชิญผู้นำของประเทศสมาชิกเข้าประชุม หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป
• ภาพลักษณ์ของรัฐบาลทหารเมียนมาทำให้ภาพลักษณ์ของอาเซียนเสียไปด้วย
• สาระสำคัญเรื่องทะเลจีนใต้ที่จีนเน้นย้ำ แสดงว่าจีนยังไม่ต้องการสร้างศึกหลายด้าน
• เปรียบเทียบ ASEAN กรณีเมียนมา กับ Africa Union กรณีซูดาน บทเรียนที่อาเซียนน่าจะได้เรียนรู้
_________________________
• จีนเห็นว่าผู้นำไต้หวัน (ไช่ อิงเหวิน) แข็งข้อขึ้นเรื่อยๆ เหมือนพยายามเป็นเอกราชจากจีนให้ได้ ขณะเดียวกันจีนก็สร้างความตึงเครียดด้วยการส่งเครื่องบินรบผ่านน่านฟ้าไต้หวัน
• จีน-ไต้หวัน ไม่ใช่แค่เรื่องระหว่างจีนกับไต้หวันเท่านั้น ยังมีเรื่องผลประโยชน์ของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอยู่ด้วย ต้องไม่ลืมว่าสหรัฐต้องพึ่งพาเศรษฐกิจของจีน
• ความแตกต่างระหว่าง "นโยบายจีนเดียว" ของสหรัฐ กับ "หลักการจีนเดียว" ของจีน
• มีกฎหมายระบุไว้ ‘สหรัฐมีพันธะที่จะให้ความช่วยเหลือไต้หวันในการป้องกันตัวเอง แต่ไม่ได้ระบุว่า หากไต้หวันถูกจีนรุกราน สหรัฐมีพันธะจะต้องเข้าไปช่วยไต้หวัน’ เป็นคำที่กำกวมและคลุมเครือ
• ผลโพลล์เรื่องคนไต้หวันอยากรวมกับจีนหรือไม่ อนาคตการรวมประเทศจะเป็นอย่างไร
_________________
รายการรัฐศาสตร์สู่สังคม
ศาตราจารย์กิตติคุณ ดร.ไชยวัฒน์ ค้ำชู และ ผศ.ดร.ปราณี ทิพย์รัตน์ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย