สืบเนื่องจากการที่ ประเทศไทย โดยกระทรวงศึกษาธิการ ได้เสนอพระนามสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เพื่อพิจารณาให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก และต่อมาเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นาง Audrey Azoulay ผู้อำนวยการองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ก็ได้ลงนามตามมติของที่ประชุมสมัชชาใหญ่ รับรองพระนาม สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เป็นบุคคลสำคัญของโลกเป็นที่เรียบร้อย และจะประกาศอย่างเป็นทางการ เพื่อถวายพระเกียรติและระลึกถึงพระองค์ท่าน เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปี วันประสูติ ในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2566
ทั้งนี้ ประเทศที่ให้การสนับสนุนตามมติในที่ประชุมดังกล่าว ได้แก่ สาธารณรัฐ ประชาชนจีน อียิปต์ ฝรั่งเศส โมร็อกโก สหพันธรัฐรัสเซีย และสวิตเซอร์แลนด์ จากพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยพระปณิธานแน่วแน่ที่จะทำประโยชน์เพื่อประชาชนชาวไทย และสังคมโลก ทั้งยังทรงยึดมั่นในคุณค่าของมนุษย์ และศักยภาพของการพัฒนา จึงทรงอุปถัมภ์กิจการทั้งปวงที่เกี่ยวกับด้านการศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ การแพทย์และการสาธารณสุข ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านสัมพันธไมตรี การสื่อสารและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ด้านการศาสนาและศิลปวัฒนธรรม ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และพสกนิกรชาวไทย มาเป็นเวลายาวนานตลอดพระชนม์ชีพ
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประสูติเมื่อวันที่ 6 พ.ค.2466 ทรงเป็นสมเด็จพระโสทรเชษฐภคินี (พี่สาวร่วมอุทร) ในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (รัชกาลที่ 8) และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) และเป็นสมเด็จพระปิตุจฉาในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ
สมเด็จกรมหลวงฯ ทรงประสูติ เจริญพระชันษาและทรงศึกษาเล่าเรียนที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ, นครบอสตัน สหรัฐฯ, ประเทศไทย และสวิสเซอร์แลนด์ ต่อมาในขั้นอุดมศึกษา ทรงสำเร็จวิชาเคมีที่มหาวิทยาลัยโลซาน ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และในระหว่างนั้น ก็ทรงศึกษาหลักสูตรของสังคมศาสตร์ อันประกอบด้วยวิชาต่าง ๆ ในสาขาวิชาการศึกษา วรรณคดี ปรัชญาด้วย
เมื่อเสด็จกลับประเทศไทย ก็ทรงประกอบพระกรณียกิจสำคัญ หลายด้าน โดยเฉพาะด้านการศึกษา; ทรงเป็นพระอาจารย์ ศาสตราจารย์พิเศษคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งทรงดูแลจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์โรงเรียนอนุบาลแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งทรงให้การสนับสนุนการจัดส่งเยาวชนไทยไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระหว่างประเทศ
ด้วยพระราชกรณียกิจที่ทรงคุณอเนกอนันต์ที่ทรงปฏิบัติมาเป็นเวลายาวนาน ในวโรกาสสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 6 รอบ ในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชฯ จึงมีพระราชดำริว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา เป็นพระโสทรเชษฐภคินีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึง 2 พระองค์ และทรงรับราชการสนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์มาโดยลำดับ รวมทั้งทรงเป็นที่รักของปวงชนชาวไทยทั่วไป จึงมีพระบรมราชโองการสถาปนาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา เป็นเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายใน มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฎ ว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งนับเป็นเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายในที่ได้รับการสถาปนาเป็นพระองค์แรกในรัชกาลที่ 9 โดยมีการพระราชพิธีสถาปนาพระอิสริยศักดิ์และบำเพ็ญพระราชกุศลฉลองพระชนมายุ 6 รอบ ในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง
พระนามกรม “กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” นั้น เป็นพระนามตามชื่อเมืองในภาคใต้ สืบเนื่องมาจากการที่พระราชโอรสและพระราชธิดาที่พระราชสมภพแต่ สมเด็จพระศรีสวรินทราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ล้วนได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยศักดิ์ ‘ทรงกรม’ ตามชื่อเมืองทางภาคใต้ทั้งสิ้น
ทั้งนี้สมเด็จกรมกลวงฯ ยังทรงกล่าวเกี่ยวกับการทรงกรมนี้ไว้ตอนหนึ่งความว่า “ชอบมาก เป็น ‘กรมหลวง’ กำลังเหมาะดี ไม่สูงไปกว่าพ่อ (สมเด็จพระราชบิดาฯ ทรงกรมว่า ‘กรมหลวงสงขลานครินทร์’) แล้ว ‘นราธิวาส’ ก็เหมาะดี เป็นจังหวัดที่ไม่อยู่สูงไปกว่าจังหวัดสงขลา แล้ว ‘นครินทร์’ ก็เหมาะอีก เพราะเป็นชื่อที่พ่อและแม่มีอยู่ในชื่อของฉัน”
นอกเหนือจากพระกรณียกิจด้านต่างๆที่กล่าวมา สมเด็จกรมหลวงฯ ทรงรักและเอาพระทัยใส่ด้านดนตรีคลาสสิกเป็นอย่างยิ่ง และพระกรณียกิจด้านนี้มากมายก็ส่งผลนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่วงการดนตรีคลาสสิกอย่างเป็นรูปธรรม และนำความอบอุ่นและซาบซึ้งใจมาสู่ประชาคมดนตรีคลาสสิกในเมืองไทย
อาทิ พระองค์ทรงรับเป็นองค์อุปถัมน์วงดุริยางค์ซิมโฟนีออร์เคสตราแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ทรงพระราชทุนการศึกษาด้านดนตรีแก่นักดนตรีชาวไทยจำนวนมากมาย ให้ไปศึกษาต่อต่างประเทศ โดยทรงเป็นหนึ่งในคณะกรรมการคัดเลือกด้วยพระองค์เอง
นอกจากนี้ ด้วยพระดำริของพระองค์ในบั้นปลายพระชนม์ชีพ สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา จึงได้ก่อกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2550 เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่สมเด็จกรมหลวงฯ ทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา รวมทั้งเพื่อสนองพระปณิธานที่จะพัฒนาดนตรีคลาสสิกในเมืองไทย ให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาชาติ และต่อมาสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนาเริ่มรับนักศึกษารุ่นแรก ในปี พ.ศ. 2557 สืบเนื่องต่อมาจนปัจจุบัน
ปัจจุบันสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ก่อตั้งและมีชื่อเสียงมั่นคงแล้วในฐานะสถาบันดนตรีขั้นสูงชั้นนำ ที่เพียบพร้อมด้วยนักศึกษาดนตรีรุ่นใหม่ไฟแรง บุคลากรด้านต่างๆชั้นแนวหน้าของเมืองไทย รวมทั้งอาคารสถานที่ที่มี facilities เหมาะสมและทันสมัย สำหรับการเรียนการสอนและการแสดงดนตรี และนับเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมดนตรีในเมืองไทยแล้วอย่างมั่นคง
ท่ามกลางความโศกเศร้าและอาลัยรักของพสกนิกร สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อวันพุธที่ 2 มกราคม พุทธศักราช 2551 ทรงเป็น “เจ้านาย” อีกพระองค์ที่อุบัติมาเพื่อทำให้โลกนี้ดีขึ้นโดยแท้
เนื่องในวาระที่องค์การ UNESCO มีมติรับรองให้พระองค์ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก รายการดนตรีคลาสสิกแห่งสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอน้อมระลึกถึงพระองค์ ด้วยรายการพิเศษในคืนวันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม ปี พ.ศ. 2565 ที่จะถึงนี้