บทความดนตรีคลาสสิก: เทพแห่งการดนตรี
3,310 views
0
0
"Orfeo"

บทความดนตรีคลาสสิก: เทพแห่งการดนตรี
โดย สดับพิณ รัตนเรือง

อุปรากรเรื่อง เทพ Orfeo

"เทพ Orfeo" เป็นอุปรากรอิตาเลียน ประพันธ์ดนตรีโดย Claudio Monteverdi นักประพันธ์เพลงเอกชาวอิตาเลียนจากปลายสมัยเรเนซองส์

เรื่องราวของอุปรากรเรื่องนี้อิงตำนานเทพปกรณัมของกรีก เกี่ยวกับเรื่องราวตอนหนึ่งของเทพ Orfeo หรือ เทพ Orpheus (ในภาษาอังกฤษ) เขียนบทอุปรากรโดย Alessandro Striggio นำออกแสดงครั้งแรกที่ราชสำนักแมนทัวเมื่อปี 1607 ได้รับการยกย่องและรื้อฟื้นนำกลับมาแสดงจนปัจจุบันในฐานะเป็นอุปรากรที่สมบูรณ์เพียบพร้อมเรื่องแรกของศิลปะดนตรีฝรั่ง

เทพ Orfeo

เป็นบุตรของเทพ Apollo ตำนานกรีกยกย่องกันว่า Orfeo เป็นเทพแห่งการดนตรี ขับร้องเพลงและเล่นพิณเก่งมาก

เสียงดนตรีของ Orfeo ไพเราะมีมนต์เสน่ห์ สะกดให้ผู้คนและเหล่าสรรพสัตว์เคลิบเคลิ้มได้ ตามตำนานเล่าว่า เทพ Orfeo ขออนุญาตเทพบิดาลงมาอยู่บนพื้นพิภพ

ตามท้องเรื่องที่ Striggio เขียนบทอุปรากรเรื่องนี้

จับบทตอนที่เทพ Orfeo สมรสกับนาง Euridice (นาง Euridice เป็นนางไม้ เป็นลูกสาวคนหนึ่งของเทพ Apollo เช่นกัน) ทั้ง 2 คนรักกันมากและได้สมรสกันอย่างสุขสมหวัง อุปรากรเรื่องนี้เริ่มต้นที่เรื่องราวตรงนี้

ตัวละครเอก: Orfeo, Euridice, Sylvia, Charon, Pluto เทพผู้ปกครองเมืองบาดาล Hades, เทพี Proserpina ราชินีของเทพพลูโต และเทพ Apollo เทพองค์ใหญ่ บิดาของ Orfeo

อุปรากร Orfeo ของ Monteverdi และ Striggio แบ่งเป็น 5 องก์

องก์แรก
เริ่มด้วยการเฉลิมฉลองพิธีแต่งงานของ Orfeo และ Euridice ท่ามกลางเหล่าข้าราชบริพาร นางไม้ เทพยาดา ที่มาขับร้องอวยชัยให้พรบ่าวสาว บรรยากาศแจ่มใสชื่นมื่นมาก

องก์ที่ 2
เปิดฉากขึ้นมาด้วยความแจ่มใสต่อเนื่องจากองก์แรก, Orfeo อยู่ท่ามกลางบริวาร ส่วนนาง Euridice แยกตัวไปกับเหล่านางกำนัล ไปเก็บดอกไม้ในป่าเพื่อนำมาร้อยมาลัย

แต่แล้วโดยพลัน เหตุการณ์ซึ่งเป็นจุดสำคัญขององก์นี้คือ Sylvia ผู้นำสารได้มาแจ้งข่าวร้ายแก่ Orfeo ว่า Euridice ถูกอสรพิษกัดถึงแก่ความตายลงในป่าอย่างกะทันหัน บรรยากาศอันแจ่มใสในองก์แรก จึงเปลี่ยนเป็นความเศร้าโศกอย่างฉับพลัน Orfeo นั้นเสียใจมาก และได้ขับร้อง aria คร่ำครวญพรรณนาถึงนางผู้เป็นที่รักหลายบทจนจบองก์

องก์ที่ 3
Orfeo เสียใจและคิดถึงภรรยามาก จึงตัดสินใจลงไปตาม Euridice ที่เมืองเฮเดส (Hades) ซึ่งเป็นนครใต้บาดาล ปกครองโดยเทพ Pluto และราชินี Proserpina, เฮเดสเป็นสถานที่ที่ดวงวิญญาณของผู้วายชนม์ต้องลงไปหลังจากถึงแก่มรณกรรม, นครเฮเดส มีแม่น้ำใหญ่ลึกลับดำมืด ขวางกั้นอยู่ระหว่างเมืองบาดาลและพื้นพิภพ และมี Charon เทพผู้ทำหน้าที่แจวเรือข้ามฟาก พาดวงวิญญาณผู้ตายจากพื้นพิภพไปส่งยังเฮเดส

เมื่อ Orfeo ไปถึงแม่น้ำดังกล่าว ก็อ้อนวอน Charon ขอให้ช่วยพาข้ามฟาก แต่ Charon บอกเสียใจ ไม่ได้ เพราะเขายังไม่ตาย, Orfeo จึงขับร้อง aria บทที่มีชื่อมากอ้อนวอน แต่ Charon ก็ยังไม่ใจอ่อน ทว่าอย่างไรก็ตาม เสียงเพลงของ Orfeo ก็ไพเราะและมีพลังมาก จน Charon ต้องมนต์เสน่ห์เคลิ้มหลับไป Orfeo ได้ทีจึงขโมยเรือข้ามฟากไปสำเร็จ

องก์ที่ 4
Orfeo สามารถบุกบั่นไปจนถึงนครใต้บาดาล แล้วก็ไปแสดงความสามารถทางการขับร้อง เพื่ออ้อนวอนขอภรรยาคืนจากเทพ Pluto, ฝ่ายราชินีนั้นก็ช่วยอ้อนวอนด้วยอีกแรง เพราะสงสารและเห็นใจความรักอันมั่นคงต่อภรรยาของ Orfeo

ในที่สุดเทพ Pluto ก็ยินยอม แต่มีข้อแม้ว่า ระหว่างเดินทางกลับขึ้นมาพื้นพิภพ ให้ Orfeo เดินนำหน้า-นาง Euridice เดินตามหลัง และห้าม Orfeo หันหลังกลับมาดูว่าเธอกลับมาด้วยจริงหรือไม่ คือต้องเชื่อใจกันและให้ถือสัจจะในข้อนี้อย่างมั่นคง

แต่ระหว่างทางที่เดินทางกลับอย่างเบิกบานนั้น Orfeo ก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่าภรรยาเดินตามมาด้วยจริงหรือไม่ และในที่สุดเมื่อกำลังจะถึงพื้นพิภพอยู่แล้ว ก็เกิดมีเหตุให้ Orfeo หันกลับไปเบื้องหลัง โดยพลันเขา...ก็เห็นนาง Euridice ค่อยๆ เลือนหายไปจากสายตา เพราะผิดสัจจะที่ให้ไว้กับเทพ Pluto

องก์สุดท้าย
Orfeo กลับขึ้นมาพื้นพิภพเพียงลำพัง เขาโศกเศร้าคร่ำครวญมากมาย จนร้อนถึง เทพ Apollo ผู้บิดา ต้องเสด็จลงมาจากสวรรค์ พูดจาปลอบโยน และชี้ให้ Orfeo เห็นถึงสัจจะธรรมว่า โลกมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ มีทั้ง ความสุข ความทุกข์ ความสมหวังและผิดหวัง ถ้า Orfeo ไม่อยากพบความทุกข์ความผิดหวัง ก็ต้องสถิตอยู่แต่บนสรวงสวรรค์

แล้วเทพ Pluto ก็ชวน Orfeo กลับขึ้นไปยังสรวงสวรรค์ ที่ซึ่งมีแต่ความสุขและความปีติยินดี แล้วในที่สุด เขาก็จะได้พบกับ Euridice ท่ามกลางเหล่าดวงดาราที่ส่องประกายระยิบระยับอยู่บนฟากฟ้า