ศิลปินที่สมองและหัวใจหมกมุ่นอยู่กับการสร้างงานทุกขณะจิต แม้แต่ในห้วงนิทรา จิตก็อาจยังทำงานต่อเนื่องปรากฏเป็นความฝัน
ตำราไทยแบ่ง ‘ความฝัน’ ออกได้หลายแบบที่เข้าข่ายความฝันของศิลปินในช่วงที่หมกมุ่นสร้างงาน อาจเรียกว่าฝันแบบ ‘จิตอาวรณ์’ คือหมกมุ่นสิ่งใดมากๆ ในยามตื่น พอเข้านอน สมองและจิตใจไม่หยุดทำงาน ฝันเป็นตุเป็นตะต่อเนื่องในเรื่องเดียวกัน หรือฝันอีกแบบของศิลปินคือ ‘เทพสังหรณ์’ ฝันแบบนี้มีเทวดาหรือใครไม่รู้มาดลใจ
Giuseppe Tartini นักไวโอลินและนักแต่งเพลงเอกชาวอิตาเลียน คงไม่รู้จักตำราฝันของไทย แต่ความฝันอันโด่งดังของท่านอาจเรียกได้ว่าเข้าข่ายฝัน ‘จิตอาวรณ์’ หรือ ‘เทพสังหรณ์’ ท่านเล่าว่า คืนหนึ่งท่านฝันเป็นตุเป็นตะว่ามีปีศาจมาเล่นไวโอลินให้ฟัง ท่านติดใจฝีมือของปีศาจมาก โดยเฉพาะเทคนิคการบรรเลง ‘ระรัวเสียง’ หรือเทคนิคขั้นสูงที่เรียกว่า ‘trill’
ความฝันนี้จึงดลใจให้ท่านแต่งเพลงเดี่ยวไวโอลินบทที่มีชื่อเสียงมาก เพลงนี้ต่อมาเรียกกันว่าเพลง ‘โซนาตา ปีศาจระรัว’ (The Devil’s Trill Sonata) จริงเท็จไม่ทราบ แต่ก็โด่งดังกลายเป็นเพลงท็อปฮิตตลอดกาลของ Tartini