นโยบายความมั่นคงของเยอรมันและญี่ปุ่นที่เปลี่ยนไป ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของภูมิรัฐศาสตร์ มองผ่านทัศนะผู้นำและสงครามในยูเครน
ย้อนกลับไปช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง สิ่งที่เยอรมันและญี่ปุ่นเหมือนกันคือ 1. แสดงอำนาจในภูมิภาคและต้องการจัดระเบียบใหม่ในยุโรปและเอเชีย 2. เป็นประเทศที่พ่ายแพ้อย่างยับเยินในสงครามโลกครั้งที่สอง
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง สิ่งที่เยอรมันและญี่ปุ่นเหมือนกันอีกคือ "รัฐธรรมนูญ" เป็นผลสืบเนื่องจากบทเรียนของการทำสงครามแบบรุกรานประเทศอื่นได้สร้างหายนะมาสู่ประเทศของตนได้อย่างไร ขณะที่เยอรมันร่างรัฐธรรมนูญเอง แต่รัฐธรรมนูญญี่ปุ่น (หลังสงครามโลกครั้งที่สอง) ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสหรัฐอเมริกา (ผู้ชนะสงคราม) ชัดเจน
อะไรคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้กองกำลังญี่ปุ่นมีบทบาทมากกว่าป้องกันประเทศ ไล่เรียงบทบาทกองกำลังของญี่ปุ่นว่าทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ทำไมกองทัพสหรัฐสามารถตั้งฐานทัพในญี่ปุ่นได้
• มีความพยายามในการตีความใหม่เกี่ยวกับบทบาทของกองกำลังญี่ปุ่นในเรื่องสิทธิการป้องกันตัวเอง
• การตีความกองกำลังญี่ปุ่นแบบเดิมและแบบใหม่
• ปลายปี 2022 เกิดจุดเปลี่ยนนโยบายความมั่นคงและนโยบายทางทหารของญี่ปุ่น
มองนโยบายความมั่นคงของเยอรมัน ผ่านเอกสารสำคัญที่เขียนโดย Olaf Scholz นายกรัฐมนตรีเยอรมัน เมื่อสถานการณ์ระหว่างประเทศเปลี่ยนไป โดยเฉพาะในสงครามรัสเซีย-ยูเครน เยอรมันไม่อาจนิ่งเฉย ต้องหยุดยั้งความก้าวร้าวของรัสเซีย
• หลังจากสงครามเย็นยุติ สหภาพโซเวียตล่มสลาย สถานการณ์ระหว่างประเทศน่าจะผ่อนคลาย แต่ปูตินยังติดอยู่ในความยิ่งใหญ่ของสหภาพโซเวียตและทำทุกทางเพื่อให้รัสเซียกลับมายิ่งใหญ่
• Olaf Scholz แสดงจุดยืนว่า เยอรมันมีความรับผิดชอบพิเศษในการต่อสู้กับพลังอัตตาธิปไตย ฟาสซิสต์ จักรวรรดินิยม และเผด็จการ ซึ่งเป็นสิ่งที่เยอรมันเคยเป็นมาหมดแล้วถ้ามองจากประวัติศาสตร์ สิ่งเหล่านี้ได้สร้างหายนะให้กับเยอรมันและชาวโลก ด้วยเหตุนี้เยอรมันจึงจำเป็นต้องออกมาปกป้องเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เหล่านั้นซ้ำรอย
• นโยบายการสนับสนุนอาวุธของเยอรมัน แง่หนึ่งเพื่อหยุดยั้งการขยายอิทธิพลของรัสเซีย แต่ถ้ามองอีกแง่ก็มีคำถามว่าการส่งเสริมการค้าอาวุธกำลังทำให้สงครามยืดเยื้อหรือเปล่า
• สงครามในยูเครนคือสิ่งที่ทำให้ทัศนะของผู้นำเยอรมันอย่าง Olaf Scholz เปลี่ยนไป การโจมตียูเครนของรัสเซียได้นำมาสู่ความเป็นจริงใหม่ที่ว่า จักรวรรดินิยมกลับมาแล้ว
• สงครามในยูเครนเกี่ยวอะไรกับญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คิชิดะ พูดไว้ว่า “วันนี้ที่ยูเครน พรุ่งนี้อาจเป็นเอเชียตะวันออก” หมายความว่า ความมั่นคงของยุโรปกับเอเชียล้วนเกี่ยวข้องกัน
ตั้งแต่หลังสงครามเย็น (สหภาพโซเวียตล่มสลาย) ท่าทีของญี่ปุ่นและเยอรมันต่อเรื่องนโยบายความมั่นคงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นบทบาทที่น่าตามต่อว่าจะทำให้โลกเกิดสันติภาพหรือยุ่งเหยิงมากขึ้น
รายการรัฐศาสตร์สู่สังคม วันเสาร์ 11.00 น. Chula Radio Plus
ศาตราจารย์กิตติคุณ ดร.ไชยวัฒน์ ค้ำชู และ ผศ.ดร.ปราณี ทิพย์รัตน์ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย