การทำงานด้านการเมืองของ “พลเอกเปรม ติณสูลานนท์” (ตอนที่ 2)
458 views
0
0

หลังจากพลเอกเปรมได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ได้มีผู้ช่วยที่มีความเข้มแข็ง ข้าราชการทางการเมืองที่ส่วนใหญ่เป็นเทคโนแครต ในการช่วยกำหนดนโยบายที่สำคัญของประเทศ โดยมีการประสานงานอย่างเข้มแข็ง ทั้งนักการเมือง ข้าราชการประจำ และนักธุรกิจ

จนถึงเดือนมีนาคมปี 2524 ได้เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล คือพรรคกิจสังคมและพรรคชาติไทย ในประเด็นด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลประโยชน์แอบแฝงทั้งสิ้น นำมาสู่การปรับคณะรัฐมนตรี

ทำให้นายทหารกลุ่มยังเติร์ก ไม่สบายใจมากนักกับความเป็นไปของรัฐบาลที่มีความวุ่นวายของนักการเมือง ส่งผลให้กลุ่มยังเติร์ก มาก่อรัฐประหารรัฐบาลของพลเอกเปรม โดยในแถลงการณ์ของคณะรัฐประหารได้โจมตีต่อการบริหารรัฐบาลของพลเอกเปรมอย่างรุนแรง

แต่สุดท้ายแล้วการปฏิวัติรัฐประหารประสบความล้มเหลวเนื่องจากพลเอกเปรมสามารถหลบหนีออกมาจากบ้านสี่เสาเทเวศน์มาได้ และไปอยู่ในกองทัพภาคที่ 2 จังหวัดนครรราชสีมาพร้อมการบังคมทูลเชิญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่รัชกาลที่ 9 พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์แปรพระราชฐานไปอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา และตอบโต้กลับ ส่งผลให้การปฏิวัติครั้งนั้นกลายเป็นกบฎเมษาฮาวาย

และนอกจากจะรอดพ้นจากการปฏิวัติได้แล้วพลเอกเปรมสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมาได้หลายประการเช่นการลอบสังหาร หรือ การปฏิวัติขณะที่ไปต่างประเทศ

นอกจากนี้ยังรอดพ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจจากนักการเมืองมาได้เช่นกัน

ขณะเดียวกันระหว่างที่พลเอกเปรม ยังมีกรณีสงครามสั่งสอน ในปี 2521-2522 ในช่วงที่กองทัพเวียดนามหลายแสนคนมาประชิดชายแดนไทย และเสียเปรียบด้านอาวุธ โดยพลเอกเปรมได้ส่งตัวตัวแทนไปยังประเทศจีน เพื่อให้จีนยกทัพมาบริเวณด้านบนของเวียดนามจนสามารถดึงทหารเวียดนามไปยังบริเวณตอนเหนือของเวียดนามได้สำเร็จ

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสมรภูมิบ้านร่มเกล้า ที่มีการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในการเจรจาด้านอาวุธกับจีน ส่งให้ผ่านพ้นอุปสรรคมาได้เช่นกัน

ซึ่งในยุคของพลเอกเปรม ยังมีแผนในการพัฒนาประชาชนในพื้นที่ชนบทอีกด้วย สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนและให้ประชาชนได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างเท่าเทียมมากขึ้น

รายการการเมืองเรื่องน่ารู้
โดย รศ.ตระกูล มีชัย คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การเมืองเรื่องน่ารู้