- การลงมติของสมาชิกรัฐสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี เสร็จสิ้นไปแล้ว ซึ่งพรรคพันธมิตรฝ่ายค้าน ยังคงเหนียวแน่น 244 เสียงแล้ว ซึ่งหลังจากที่มีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาแล้วก็เป็นขั้นตอนของการจัดสรรกระทรวงในการดูแล ซึ่งความวุ่นวายก็ถือเป็นเรื่องปกติ โดยกระทรวงที่เกี่ยวกับความมั่นคง ทั้งกลาโหม มหาดไทย การคลัง การต่างประเทศ โควต้าหลักเหล่านี้นายกรัฐมนตรีมีความจำเป็นต้องดูแล เพราะว่า กระทรวงทั้งหมดนี้ เป็นหัวใจสำคัญในการบริหารประเทศ

- แต่การจัดตั้งรัฐบาลผสม พรรคแกนนำการจัดตั้งรัฐบาลจะต้องดูว่ามีเสียงมากน้อยแค่ไหน โดยพรรคพลังประชารัฐนั้นมีความใกล้ชิด และพลเอกประยุทธ์จึงมีความใกล้ชิดกับสมาชิกพรรคด้วย โดยมองว่ากระทรวงที่เกี่ยวกับความมั่นคงพรรคพลังประชารัฐน่าจะมาดูแลเอง ส่วนกระทรวงเกรดเอ ขึ้นอยู่กับกระแสสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ศึกษาธิการ คมนาคม เกษตรและสหกรณ์

- จำนวนสส.ในสภาถือว่ามีผลอย่างมากในการพิจารณากฎหมาย โดยกฎหมายที่สำคัญคือร่างพรบ.งบประมาณรายจ่าย โดยการจัดสรรโควต้าต่างๆจะทำให้เกิดความวุ่นวาย โดยอาจจะเกิดความขัดแย้งกับสองพรรคคือ ประชาธิปัตย์ ภูใจไทย แต่พลังประชารัฐ

- ดังนั้นจึงเชื่อว่า รัฐบาลอาจจะตั้งไม่ได้หรืออยู่ได้ไม่นาน โดยหากไม่มีนโยบาอาจจะทำให้เกิดผลเสียแก่ประชาชน โดยเฉพาะนโยบายที่เกี่ยวกับการเกษตรหากไม่ชัดเจนจะทำให้ความวุ่นวายมากขึ้น และเกษตรกรเกิดความไม่แน่ใจต่อรัฐบาล

- โดยการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีถือว่าง่ายแล้ว แต่สิ่งที่ยากคือการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีและการดำเนินนโยบายต่างๆ

ติดตามฟังได้ในรายการ "การเมืองเรื่องน่ารู้" โดยรองศาสตราจารย์ ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 8 มิถุนายน 2562