- การบริหารประเทศภายใต้ระบอบรัฐสภา ต้องดูรัฐธรรมนูญและดูกฎหมายว่าด้วยระเบียบการบริหารว่าด้วยราชการแผ่นดินที่กำหนดเอาไว้เกี่ยวกับอำนาจของนายกรัฐมนตรี รวมถึงกฎหมายบัญญัติว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวงทบวงกรม ว่ากระทรวงแต่ละกระทรวงมีอำนาจหน้าที่อย่างไร ดังนั้นการบริหารราชการของรัฐบาล

- การจะดำเนินกิจกรรมการเมืองใดก็แล้วแต่ต้องมองถึงความชอบธรรมทางการเมือง ว่าถ้าลงมือทำอะไรแล้วจะเกิดความชอบธรรมทางการเมืองหรือไม่ และอนาคตการเมืองข้างหน้าจะเดินต่อไปอย่างไร เพราะฉะนั้นจากตรงจุดนี้ต้องมองอีกเหมือนกันว่านักการเมืองที่มาจากพื้นที่ต่างๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ ส.ส. นั้นสามารถที่จะใช้อำนาจทางการเมืองทางความชอบทำทางการเมืองในระดับพื้นที่ได้ สามารถทำให้ประชาชนเข้าใจยอมรับวิธีทางการเมืองได้

- พลเอกประยุทธ์เอง กลายเป็นนักการเมืองเต็มตัว มีกลุ่มพรรคสนับสนุน เปลี่ยนใจไม่เป็นตัวกลางทางการเมือง แต่จะเข้ามาเล่นเป็นนักการเมืองเต็มตัวตั้งพรรคการเมืองภายใต้พรรคพลังประชารัฐ ขบวนการเหล่านั้นไม่ใช่เป็นแบบที่เป็นอยู่ แต่จะเป็นการสร้างพรรคพลังประชารัฐให้เป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาล คือเป็นศูนย์กลางที่มีพลังโดดเป็นดวงอาทิตย์ และมีพลังโดดกว่ากลุ่มย่อยทั้งหลาย ทั้งอยู่ในกลุ่มพรรคฝ่ายค้าน พรรคฝ่ายรัฐบาลที่เป็นกลุ่มเล็กๆขนาดกลางเข้ามาร่วมเป็นเครือจักรวาล ให้นักการเมืองอื่นเข้ามาอยู่ภายใต้บริวาร

- ถ้าเกิดการหักล้างโดยใช้เสียงในสภามาหักล้างกัน ก็อาจจะต้องยุบสภาและเตรียมการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งหลังเลือกตั้ง คนที่ได้เปรียบก็คงยังอยู่กับกลุ่มของผู้นำทางการเมืองในขณะนี้ แต่ก็มีตัวแปรว่าพรรคที่เป็นฝ่ายค้าน จะสามารถรักษาฐานความเชื่อมั่น และหาเสียงในเชิงนโยบายและดึงคะแนนเสียงกับมาได้หรือไม่ โดยเฉพาะความเป็นเอกภาพของความเป็นผู้นำกลุ่มฝ่ายค้าน ที่จะต้องมีความโดดเด่น และแข่งขันกับคนที่เป็นผู้นำอยู่ในขณะนี้ ปัญหาที่การเมืองไทยวนเวียนซ้ำอยู่แบบนี้ เราสามารถแก้ไขได้หรือไม่จะแก้ตามรูปแบบเดิมๆหรือแก้ไขโดยการเขียนขึ้นมาใหม่

ติดตามฟังได้ในรายการ "การเมืองเรื่องน่ารู้" โดยรองศาสตราจารย์ ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 6 กรกฎาคม 2562