- ความตึงเครียดในการต่อสู้กันทางการเมืองภายใต้ระบอบรัฐสภา รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์นั้นจะเจอด่านรออยู่ข้างหน้าเป็นศึกในสภา 3 ด่านใหญ่ๆ ด่านแรกคือเรื่องของนโยบาย คงจะมีการอภิปรายกันอย่างเต็มที่ ซึ่งได้ผ่านพ้นไปแล้ว

- ด่านที่ 2 ร่างบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ก็จะเข้าสู่สภา เพราะเป็นเรื่องของการจัดสรรทรัพยากร แต่ในการอภิปรายงบประมาณในวาระแรกฝ่ายค้านคงจะใช้เวทีนี้อภิปราย เมื่อวาระแรกผ่านไปด้วยคะแนนเสียงที่ปริ่มน้ำนั้น ถ้าผ่านไปได้ถือว่าโชคดีแต่ถ้าจัดการไม่ดีก็หมายความว่ารัฐบาลนั้นล้มตั้งแต่แรก

- ส่วนด่านที่ 3 คือด่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่างไรก็ตามทีฝ่ายค้านก็มียุทธศาสตร์ในการดำเนินกิจกรรมการเมืองของฝ่ายอยู่แล้ว จึงถือโอกาสอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่มีจุดอ่อนมากเกินไป

- ทั้งนี้รัฐบาลก็ยังมีจุดอ่อนใน 5 ข้อ คือ 1.รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ที่มีการพูดถึง ว่ารัฐบาลที่มีเสียงของสมาชิกผู้แทนราษฎรมากกว่าฝ่ายค้านจำนวนน้อยมากไม่ถึง 10 เสียง ก็เสี่ยงที่จะทำให้อายุของรัฐบาลนั้นสั้น เพราะเสียงในสภาปริ่มน้ำ ทั้งนี้จุดอ่อนตรงนี้ในช่วงแรกๆทีมงานทางการเมืองของรัฐบาลที่ต้องร่วมกับพรรครัฐบาลแล้วยังไม่ทันได้ทำอะไรก็จะล้มไปซะก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมายงบประมาณ การลงมติ พรรคร่วมรัฐบาลเองก็คงจะใช้จุดอ่อนตรงนี้สร้างเป็นจุดแข็ง สร้างความร่วมมือ เพื่อขับเคลื่อนรัฐบาลให้เดินไปข้างหน้าได้ เพราะเสียงของสภาที่ปริ่มน้ำ นั้นพร้อมที่จะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้ตลอดเวลา

- ส่วนจุดอ่อนที่ 2 คือการเรียกร้องตำแหน่งทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีและตำแหน่งอื่นๆ การที่นักการเมืองเหล่านี้ต้องการตำแหน่งในการบริหาร เพราะหวังที่จะได้ตำแหน่งนั้นในการเพิ่มอำนาจในการต่อรองบางสิ่งบางอย่าง ตรงจุดนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่าในกลุ่มของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลในช่วงนี้อาจจะยังไม่เจออะไรที่สร้างความลำบากใจมากนัก แต่หลังจากพ้นจากการจัดตั้งรัฐบาลทางการเมืองอาจจะเกิดการตีรวน การขัดแย้งภายในรัฐบาล

ติดตามฟังได้ในรายการ "การเมืองเรื่องน่ารู้" โดยรองศาสตราจารย์ ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยออกอากาศเมื่อ วันที่ 20 กรกฎาคม 2562