- การลงมติเพื่อตั้งกรรมาธิการวิสามัญที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการใช้มาตรา 44ของหัวหน้า คสช. ที่พบว่าฝ่ายค้านชนะ ทำให้เกิดการโต้แย้งในสภา เกิดการนับคะแนนใหม่และวอร์คเอาท์ และไม่สามารถลงมติได้ถึงสองครั้ง ซึ่งการนับคะแนนใหม่ จะทำให้เกิดการเสียเวลาเพราะหากแพ้มติจะทำให้เกิดการนับใหม่ตลอดเวลา เป็นการต่อสู้ทางการเมืองเช่นกัน
- ซึ่งเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยมาแล้ว โดยปัญหาที่เกิดขึ้นไม่สามารถโทษใครได้นอกจากวิปรัฐบาลที่ไม่สามารถประสานงานรวมกัน โดยมีการส่งสัญญาณจากผู้ใหญ่ทางการเมืองว่า สภาจะล่มเป็นครั้งที่สามไม่ได้
- นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ซึ่งเป็น ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า ในการประชุมนั้น องค์ประชุมจะต้องครบ และเป็นเรื่องปกติในการให้คำสั่งคณะรัฐประหารต้องเปลี่ยนเป็นพระราชบัญญัติ ซึ่งในช่วง 14 ตุลาคม 2516 ก็เคยมีการประสบมาแล้วถือเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก
- ซึ่งเป็นคำถามย้อนกลับมายังรัฐบาลว่า จำเป็นแค่ไหนที่ต้องคัดค้านอย่างเต็มกำลัง เพราะเป็นกรรมาธิการเพื่อศึกษาเท่านั้น อย่าไปกลัวการสร้างสัญลักษณ์ของคณะรัฐประหาร โดยการยื่นญัตตินี้เป็นเพียงการใช้ไม้ไปแหย่กองไฟเท่านั้นซึ่งทำให้เห็นถึงความไม่พร้อมของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งฝ่ายค้านก็ใช้จุดนี้เป็นการเล่นเกมเท่านั้น เพราะญัตตินี้ถือว่ายังไม่มีความสำคัญ และเชื่อว่าจะมีการกระทำแบบนี้ซ้ำแบ่วซ้ำอีก
- โดยมองว่าอาวุธทางการเมืองในรูปแบบนี้ ฝ่ายค้านจะนำมาใช้ ซึ่งการทำงานของรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส. จะต้องไปอยู่ในสภาเพื่อไปลงคะแนนเสียงให้ทัน ในการทำงานไม่ได้มีเพียงแค่นี้เท่านั้น ซึ่งรัฐบาลไม่จำเป็นต้องไปมองเรื่องการเอาชนะทางการเมืองเท่านั้นควรจะใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาศึกษาว่า คำสั่งใดที่เป็นปัญหาบ้าง ทางที่ดีควรปล่อยเกิดการศึกษาต่อไปเพราะบางคำสั่งนั้นทำให้เกิดปัญหาจริงๆ
ติดตามรับฟังได้ที่รายการการเมืองเรื่องน่ารู้ กับ รศ.ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทุกวันเสาร์ เวลา 06.00-07.00 ทางสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย FM101.5 MHz
ออกอากาศเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2562