รศ.ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในรายการการเมืองเรื่องน่ารู้ว่า จากกรณีที่คณะกรรมการ กกต. ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาตใหม่ ซึ่งเป็นไปตามมามาตรา 20 28 30 และ 36 44 45 46 72 74 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมืองนั้น หากมีการวิเคราะห์เป็นรายมาตราจะพบว่า ในมาตรา 28 มีการพูดถึงกันบ่อยมากขึ้นเนื่องจากเจตนารมณ์ไม่ต้องการให้เกิดการครอบงำสมาชิกพรรคจนขาดความเป็นอิสระซึ่งไม่เคยมีการยื่นให้ยุบพรรคจากข้อนี้มาก่อน

ส่วนในมาตรา 30 นั้นเป็นการยื่นข้อเสนอหรือผลประโยชน์อื่นไปยังสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งมาตรานี้ต้องจับตาให้มาก เพราะว่าอาจจะมีการดึงตัวสมาชิก ส.ส. ที่ถูกยุบพรรคไปร่วมเป็นสมาชิกด้วยผลประโยชน์หรือไม่ ในมาตรา 44 นั้น ที่มีความเป็นมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งน่ยกรัฐมนตรี ที่มีการให้ข่าวจากฝั่งทหารว่า มีพรรคการเมืองรับเงินจากต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการทำลายความมั่นคงของประเทศในหลายด้านได้ แต่ข้อกล่าวหาที่ระบุมาตามมาตรา 44 แล้วจากกรณีการจัดโต๊ะจีนเพื่อระดมทุน จะเข้าข่ายด้วยหรือไม่ แต่เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นบ่อยมากก่อนที่มีการบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวกับพรรคการเมืองเสียอีก ซึ่งส่งผลทางอ้อมต่อประเทศ

ส่วนในมาตรา 45 นั้นพรรคการเมืองห้ามสนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการก่อกวนความสงบหรือศีลธรรมอันดีต่อประเทศชาติ ในประเด็นนี้ที่มีการกล่าวหาเรื่องของลัทธิชังชาตินั้น จะเข้าข่ายหรือไม่ และจะก่อกวนหรือให้เกิดความไม่สงบในสังคมจริงหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ก็มีสิทธิถูกยุบพรรคด้วยเช่นกัน การกล่าวหาหรือพาดพิงผู้ใดต้องมีมุมมองในสองด้านด้วย

ติดตามรับฟังได้ที่รายการการเมืองเรื่องน่ารู้ กับ รศ.ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทุกวันเสาร์ เวลา 06.00-07.00 ทางสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย FM101.5 MHz

ออกอากาศเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พุทธศักราช 2562