รศ.ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในรายการการเมืองเรื่องน่ารู้ว่า หากวิเคราะห์เป็นรายมาตราจากกรณี กกต. ให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ ในมาตรา 72 ซึ่งถือว่าตรงประเด็นมากที่สุดเพราเกี่ยวกับประเด็นของการรับเงิน ซึ่งกกต.ตีความว่าเงินที่กู้เป็นการนิติกรรมอำพราง ซึ่งจากกรณีหัวหน้าพรรคให้พรรคกู้เงินนั้น ทำให้ กกต. ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ซึ่งมีข้อคลางแคลงใจให้ต่อ กกต. ที่มีคำแถลงเพียงสั้นๆ และเกิดการตีความกันอย่างหลากหลาย โดยมองว่าหากเรื่องใดที่มีความชัดเจน ก็ควรให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่ถ้ามีความคลุมเครือตีความในหลายด้าน แล้วมีคำตัดสิน มันจะเหมาะสมหรือไม่

นอกจากนี้หากอ้างอิงจากเหตุการณ์ในอดีต ตามคุณสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวถึงสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยว่า ตนเองถูกกำจัดจากอำนาจรัฐ สุดท้ายต้องมาอยู่บนท้องถนน ทำให้มองว่า การจัดการในระบบรัฐสภา ควรจะเป็นการต่อสู้ความแตกต่างทางความคิด ไม่ควรจะทำให้เกิดการทำลายล้างกัน ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะต้องตัดสินอย่างตรงไปตรงมาด้วยเหตุและผล เพื่อให้เป็นเสาหลักของการเมือง และสิ่งที่เป็นประเด็นน่าสนใจคือ "หากตัดสิทธิทางการเมืองแล้ว" จะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวนอกสภาอย่างแน่นอน ซึ่งแม้จะมีการพูดดักคอจากฝ่ายต่างๆเรื่องการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้มาแล้ว แต่ก็เชื่อว่าจะไม่มีใครสามารถห้ามเรื่องนี้ได้ เพราะเมื่อถูกผลักออกนอกระบบรัฐสภาแล้ว สิ่งที่เรียกร้องได้คือการเคลื่อนไหวนอกสภาและท้องถนน ฉะนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ติดตามรับฟังได้ที่รายการการเมืองเรื่องน่ารู้ กับ รศ.ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทุกวันเสาร์ เวลา 06.00-07.00 ทางสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย FM101.5 MHz

ออกอากาศเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พุทธศักราช 2562