รศ.ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในรายการการเมืองเรื่องน่ารู้ว่า การลงคะแนนเสียงพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่คุณนิพิษฏ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า มีส.ส.ฝั่งรัฐบาลที่มีการเสียบบัตรแทนกันเพื่อลงคะแนน ซึ่งได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ถึงแม้ว่าร่างกฎหมายจะผ่านสภาแล้วก็ตาม แต่ประธานสภาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่าจะต้องชะลอการส่งร่างกฎหมายให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยความล่าช้าของการประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ทำให้ต้องย้อนไปในปี 2557 ที่มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานซึ่งมีการพิจารณาในสองส่วนคือร่างกฎหมายชอบด้วยกฎหมายหรือไม่กับกระบวนการตรากฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่

ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาในเรื่องการลงคะแนนเสียงแทนกันและมีคำวินิจฉัยว่า กระบวนการตรากฎหมายไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการลงคะแนนเสียงของ ส.ส.นั้นมีปัญหา หากกล่าวถึงการลงคะแนนเมื่อสมัยก่อนเป็นการยกมือเพื่อลงคะแนน แม้ว่าจะเสียเวลาบ้างแต่ก็มีความแน่นอน ซึ่งในปัจจุบันในเรื่องการพิจารณาญัตติมีจำนวนมาก การลงใช้บัตรลงคะแนน ยังถือว่าทำให้การลงคะแนนเป็นไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งเมื่อมีการส่งสัญญาณมา สมาชิกส่วนใหญ่ที่มีความรับผิดชอบแล้วก็จะอยู่ในห้องประชุม

แม้เทคโนโลยีในการลงคะแนนเสียง เป็นเพียงเครื่องอำนวยความสะดวกเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญกว่า และ ส.ส.ควรคำนึงคือ ความรับผิดชอบ สามัญสำนึกต่อประชาชน สิ่งที่เกิดขึ้นจากการเสียบบัตรแทนกันคือ ความเสียหายต่อประเทศ ที่ยังไม่สามารถประกาศร่างกฎหมายได้ ซึ่งประเทศยังมีปัญหาอีกจำนวนมากที่ต้องแก้ไข ซึ่งยังรอร่างกฎหมายฉบับนี้อยู่ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเห็นชอบก็จะใช้เวลาประมาณ 7 เดือนในการใข้งบประมาณ แต่หากไม่เห็นชอบตีตกร่างกฎหมายฉบับนี้ไป ก็ต้องใช้เวลาการพิจารณาใหม่อีกครั้งและอาจทำให้งบประมาณไม่สามารถใช้ได้ทัน แค่พรรคกล่าวตำหนิสมาชิกพรรคอาจจะไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นได้

ติดตามรับฟังได้ที่รายการการเมืองเรื่องน่ารู้ กับ รศ.ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทุกวันเสาร์ เวลา 06.00-07.00 ทางสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย FM101.5 MHz

ออกอากาศเมื่อวันที่ 25 มกราคม พุทธศักราช 2563