รศ.ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในรายการการเมืองเรื่องน่ารู้ว่า หากเกิดการปรับคณะรัฐมนตรีหลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจจบลงนั้นจะส่งผลต่อความมั่นคงของเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งจะหนีไม่พ้นที่พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องรับภาระอีกครั้ง แต่ขณะดียวกันก็ต้องการฝากรัฐบาลว่า ถึงแม้จะมีเสถียรภาพจาก ส.ส. แต่ก็ไม่ได้บ่งชี้ถึงความชอบธรรมในการเป็นรัฐบาลจะมีอยู่ต่อไป ซึ่งตามวัฒนธรรมทางการเมืองของไทยเป็นไปในลักษณะ “รักง่าย หน่ายเร็ว” ประกอบกับขณะนี้ประเทศกำลังเกิดวิกฤตการณ์หลายรูปแบบ ทั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่หลายภาคส่วนมีการตื่นตัวกันมาก ทั้งในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่มีมาตรการต่างๆออกมา แต่การจัดการของภาครัฐบาลเองเรื่องนี้ถือว่าล่าช้ามาก สะท้อนไปถึงภาวะความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะมีหลายปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้เลย และยังมีปัญหาภัยแล้ง ฝุ่นละออง ซึ่งทั้งหมดนี้คือวิกฤตที่เกิดขึ้นและต้องแก้ไขปัญหาให้ประชาชนพอใจและวัดผลได้จริง
ส่วนอีกหนึ่งเรื่องคือมีความเป็นห่วงต่อผู้ใหญ่ที่มองถึงกรณีที่นิสิต นักศึกษา รวมตัวเรียกร้องความเป็นธรรมและเสรีภาพทางการเมือง ผู้ใหญ่อย่ามองว่า กลุ่มคนเหล่านี้จะถูกชักจูง เพราะยุคนี้เด็กมีความคิดตัดสินใจเป็นของตนเองได้ ไม่ควรจะไปปิดกั้น ต้องมีความเชื่อว่า เด็กต่างมีความคิดเป็นของตนเอง อัดอั้นใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ให้เด็กได้เรียนรู้ต่อไป
ติดตามรับฟังได้ที่รายการการเมืองเรื่องน่ารู้ กับ รศ.ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทุกวันเสาร์ เวลา 06.00-07.00 ทางสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย FM101.5 MHz
ออกอากาศเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563