ซิมโฟนีแห่งสรรพสิ่ง
2,142 views
0
0
"เดือนกรกฎาคมเป็นเดือนครบรอบคล้ายวันเกิดของ Gustav Mahler นักประพันธ์เพลงและผู้อำนวยเพลงเอก ชาวออสเตรีย จากปลายสมัยโรแมนติก Mahler ท่านเกิดเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ของปี ค.ศ.1860 จุลสารฉบับนี้จึงขอร่วมระลึกถึงท่านด้วยบทความแนะนำซิมโฟนีบทสำคัญ ที่สะท้อนถึงแนวคิดอันกว้างขวางของจิตวิญญาณผู้รังสรรค์ ที่รวบรวมและกลั่นกรองทุกสิ่งอย่างในจักรวาล แล้วสะท้อนออกมาในซิมโฟนีบทนี้ --- ซิมโฟนีแห่งสรรพสิ่ง (Symphony of All Things)"

Mahler ประพันธ์ซิมโฟนีเสร็จสมบูรณ์ไว้ด้วยกัน 9 บท และทิ้งค้างบทที่ 10 ไว้ ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก็มาจากไปเสียก่อน ท่านถึงแก่กรรมเมื่อ 18 พฤษภาคม ปี 1911

ซิมโฟนีทุกบทของ Mahler ล้วนเป็นผลงานขนาดใหญ่ ที่ได้ขยายขอบเขตของแนวคิดเพลงประเภทนี้ออกไปอย่างประมาณมิได้ นับตั้งแต่กินเวลาบรรเลงมาก ใช้วงดุริยางค์ขนาดใหญ่มหึมาในการบรรเลง รวมทั้งให้มีการขับร้องผสมผสานกับวงดุริยางค์ ทั้งการขับร้องเดี่ยวและ ขับร้องประสานเสียง นอกจากนี้เกือบทุกบทยังมีแนวคิดของดนตรีพรรณนา (programme music) อยู่ด้วย กล่าวคือมีเรื่องราว (story) แนวคิด (concept) ภาพ (image) หรือบรรยากาศ (atmosphere) บางอย่างที่มิใช่เสียงเพลงล้วนๆ อยู่เบื้องหลังเสียงเพลงและเป็นจุดบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์ ไม่ใช่เป็นเพลงบรรเลงที่ผูกโยงขึ้นตามกลวิธีและกระบวนการทางดนตรีเท่านั้น

ซิมโฟนีของ Mahler ที่จะกล่าวถึงในบทความนี้ คือ ซิมโฟนี หมายเลข 3 สำหรับขับร้องเดี่ยวเสียง อัลโต (หรือ mezzo-soprano) ร่วมด้วยคณะขับร้องประสานเสียงเด็กและคณะนักร้องหญิง และวงดุริยางค์ขนาดใหญ่ โครงสร้างเพลงประกอบด้วยท่อนต่างๆ ถึง 6 ท่อน ปกติกินเวลาขับร้องและบรรเลงตั้งแต่ 95 ถึงกว่า 100 นาที (แล้วแต่การตีความและการบรรเลงของ ผู้อำนวยเพลงและวงดุริยางค์ แต่ละคนแต่ละคณะ)

Mahler ใช้เวลารังสรรค์งานชิ้นนี้อยู่ประมาณ 3 ปี ระหว่างปี ค.ศ. 1893-1896 นำออกแสดงบางส่วนตั้งแต่ปี 1986 และ 1987 จนมาแสดงฉบับสมบูรณ์ในเดือนมิถุนายน ปี 1902 ที่เมือง Krefeld ประเทศเยอรมนี โดย Mahler เป็นผู้อำนวยเพลงเอง ต่อมาก็แพร่หลายไปสู่การแสดงที่ศูนย์กลางการดนตรีใหญ่ๆ ทั่วโลก ทั้งกรุงลอนดอน กรุงเวียนนา กรุงอัมสเตอร์ดัม นครนิวยอร์ก เมืองซินซินแนติ เป็นต้น

จากผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยนิตยสาร BBC Music Magazine เมื่อราว 5 ปีที่ผ่านมา (2016) ซิมโฟนี หมายเลข 3 บทนี้ของ Mahler ติดอันดับ top ten ของเพลงซิมโฟนีในดวงใจของบรรดาผู้อำนวยเพลงใหญ่ๆทั่วโลก

Mahler เคยกล่าวเอาไว้ ขณะประพันธ์ซิมโฟนีบทนี้อยู่ว่า “เพลงนี้เป็นผลงานสำคัญขนาดใหญ่ ที่สะท้อนถึงสรรพสิ่งต่างๆทั่วทั้งโลกและจักรวาล ตัวข้าพเจ้าเอง เป็นเพียงเครื่องมือหรือ เครื่องดนตรี ที่ถูกบรรเลงโดยจักรวาลอันไพศาล”

คำกล่าวนี้พอจะสะท้อนถึงเนื้อหาที่เป็นแรงบันดาลใจของซิมโฟนีบทนี้ว่า ครอบคลุมทุกสรรพสิ่ง’ ในจักรวาลจริงๆ จนแม้แต่อัตตาตัวตนของผู้รังสรรค์ก็ยังถูกบดบังหดหาย เหลือเป็นเพียงแค่เครื่องมือแห่ง ‘การสร้างสรรค์’ มิใช่ ‘ผู้รังสรรค์’

ซิมโฟนีบทนี้ ประกอบด้วย 6 movement ในแต่ละท่อนนั้น แต่แรก Mahler เคยกำกับ title อธิบายไว้ด้วย แม้ว่าต่อมาเมื่อตีพิมพ์ Mahler จะให้ละ title ทั้งหมดออก อย่างไรก็ตาม ผู้เขียน (บทความนี้) เห็นว่า title ของแต่ละท่อน ก็พอจะสรุปเนื้อหาที่ผู้แต่งตั้งใจจะแสดงออกได้ดี เพื่อเป็นแนวทางในการรับฟังและเข้าถึงซิมโฟนีบทนี้ จึงขอนำ title และคำอธิบายเหล่านี้ มารวมอยู่ในบทความนี้ด้วย

1. ท่อนแรก: โอ่อ่า ทรงพลัง Mahler กำกับไว้ที่สกอร์โน้ตว่า ‘เทพแพนตื่นจากหลับใหล และฤดูร้อนกำลังมา’ (Pan Awakes, Summer Marches In) หากจะให้ภาพรวมของซิมโฟนีบทนี้ ทั้งบท Mahler ดูจะพอใจในคำว่า Pan หรือ เทพแพน ว่าเป็นคำที่อธิบายแนวคิดของเพลงบทนี้ได้ตรงใจท่านที่สุด (ดังในจดหมายที่ท่านเขียนถึง Anna von Mildenburg) ท่านบอกว่า Pan มี 2 ความหมาย คือหมายถึงเทพตามตำนานกรีก และอีกความหมายในภาษากรีก หมายถึง ‘ทุกอย่าง’ (All) หรือ ‘ทุกสรรพสิ่ง’

2. ท่อนสอง: ในลีลาเพลงเต้นรำมินูเอ็ต กำกับไว้ว่า ‘มวลดอกไม้แห่งท้องทุ่งบอกกล่าวอะไรแก่ข้าพเจ้า’

3. ท่อนสาม: ในลีลาสแกร์โซ ฟังสบายๆ สดใส ระคนสงบนิ่งในบางช่วง และเงาของความน่าสะพรึงกลัวบางอย่าด้วยง กำกับไว้ว่า ‘สรรพสัตว์แห่งพงไพรบอกอะไรแก่ข้าพเจ้า’ ในช่วงท้ายของท่อนนี้ กลุ่มแตรจะเป่าอย่างทรงพลัง น่าสะพรึงกลัว จนบางท่านเรียกว่าเป็น ‘เสียงกรีดร้องแห่งความน่าสะพรึง’ (Cry of Terror) ราวกับผู้แต่งต้องการสื่อว่า พวกมนุษย์ได้รุกรานสรรพสัตว์อย่างโหดเหี้ยมเพียงไร

4. ท่อนสี่: ในลีลาช้ามาก บรรยากาศลึกลับเป็นปริศนา กำกับไว้ว่า ‘ราตรีบอกกล่าวอะไร แก่ข้าพเจ้า’ แล้วภายหลังเปลี่ยนเป็น ‘มวลมนุษย์บอกกล่าวอะไรแก่ข้พเจ้า’ ท่อนนี้ให้เสียง ขับร้องอัลโต (หรือ mezzo-soprano) ขับร้องเดี่ยว บทกวีเยอรมันของ Friedrich Nietzsche

5. ท่อนห้า: ในลีลาสดชื่นเบิกบาน กำกับไว้ว่า ‘เทพยดาบอกกล่าวอะไรแก่ข้าพเจ้า’ ท่อนนี้ ให้ขับร้องเสียงเดี่ยวอัลโต และคณะนักร้องประสานเสียง ร่วมกับวงดุริยางค์

6. ท่อนสุดท้าย: ในลีลาช้า สงบ ลึกซึ้งลึกล้ำ กำกับไว้ว่า ‘ความรักบอกกล่าวอะไรแก่ข้าพเจ้า’ ท่อนนี้ลึกซึ้งมาก คล้ายเป็นบทสรรเสริญพระผู้สร้างทุกสรรพรสิ่ง ผู้ทรงเป็นต้นธารแห่งพลังความรัก ความงาม และความเมตตา ทั้งปวง

อ่านบทความแล้ว ขอเชิญฟังเพลงไพเราะ ลึกซึ้งยิ่งใหญ่บทนี้ได้ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคมที่จะถึง