เมื่ออาทิตย์อัสดง
663 views
0
0
"ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา พลเรือเอก ม.ล. อัศนี ปราโมช อดีตองคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ บรมนาถบพิตร ถึงแก่อสัญกรรม จากไปด้วยความสงบเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2560 สิริอายุได้ 83 ปี นับเป็นการสูญเสียปูชนียบุคคลผู้เป็นกำลังสำคัญของวงการดนตรีคลาสสิกของเมืองไทย ท่ามกลางความอาลัยรักของคนดนตรีหลากหลายรุ่น"

พลเรือเอก ม.ล. อัศนี ปราโมช หรือที่พวกเราเรียกขานกันด้วยความเคารพว่า ‘อาจารย์หม่อม’ เกิดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2477 ท่านเป็นบุตรของ หม่อมราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี และท่านผู้หญิงอุศนา ปราโมช ณ อยุธยา สมรสกับท่านผู้หญิงวราพร ปราโมช ณ อยุธยา ปรมาจารย์ด้านนาฏยศิลปบัลเลต์รุ่นบุกเบิกของเมืองไทย มีบุตรธิดารวม 5 คน

ทางด้านการศึกษานั้น หลังจบการศึกษาที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนแล้ว ท่านเดินทางไปศึกษาด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด (University of Oxford) ประเทศอังกฤษ จนสำเร็จระดับปริญญาตรี และศึกษาต่อในหลักสูตรเนติบัณฑิตที่สำนักกฎหมายเกรยส์ อินน์ (Gray’s Inn) สำเร็จเป็นเนติ-บัณฑิตอังกฤษ แล้วจึงเดินทางกลับเมืองไทย

ท่านเข้ารับราชการทหารที่กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม จนได้รับยศเป็นนายเรือเอก จากนั้นได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เข้าทำงานที่สำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ และดำรงตำแหน่งผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 และต่อมาในปี พ.ศ. 2527 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี ส่วนทางด้านราชการทหารนั้น ท่านได้รับพระราชทานยศเป็นกรณีพิเศษ ในตำแหน่งนายทหารพิเศษ ดำรงตำแหน่งพลเรือตรี ในปี พ.ศ. 2535 และพลเรือเอก ในปี พ.ศ. 2550 ตามลำดับ

พลเรือเอก ม.ล.อัศนี ปราโมช อดีตองคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ บรมนาถบพิตร

สำหรับงานด้านดนตรีนั้น อาจารย์หม่อมสนใจดนตรีมาแต่เยาว์วัย และได้รับอิทธิพลด้านดนตรีและศิลปะจากบิดา ท่านเรียนไวโอลินและรวมตัวเล่นดนตรีเป็นวงเชมเบอร์ในครอบครัวอยู่เสมอ และเมื่อไปศึกษาต่อที่อังกฤษ ก็ได้ใช้เวลาว่างศึกษาดนตรีด้วยตัวเอง และเข้าร่วมในกิจกรรมดนตรีกับทางมหาวิทยาลัยเป็นประจำ

เมื่อกลับมาเมืองไทยในปี พ.ศ. 2501 ท่านได้ร่วมก่อตั้งวงเครื่องสายสตริงควอเต็ทกับศาสตราจารย์ ดร. กำธร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และชาวต่างชาติที่อยู่เมืองไทย ต่อมาวงนี้ได้เติบใหญ่กลายเป็นวง ‘โปรมูสิกา’ (Pro Musica) มีการฝึกซ้อมอย่างเป็นเรื่องเป็นราว โดยได้รับความสนับสนุนจากสถาบันวัฒนธรรมเยอรมัน (Goethe Institut, Bangkok) วงดุริยางค์วงนี้นับเป็นวงดนตรีที่บุกเบิกการเล่นการฟังและวางรากฐานให้กิจกรรมดนตรีคลาสสิกของเมืองไทย โดยอาจารย์หม่อมเป็นทั้งผู้ร่วมบุกเบิก เป็นนักดนตรี ผู้แสดงเดี่ยว เป็นทั้งหัวหน้าวง ผู้จัดการวง และผู้อำนวยเพลงด้วย ต่อมาวงโปรมูสิกาสลายตัวไป แต่ก็ได้เป็นรากฐานผลิบานเป็นวงดุริยางค์วงใหญ่ที่เรารู้จักกันดีจนปัจจุบันคือ วงดริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพฯ (The Royal Bangkok Symphony Orchestra) (ปัจจุบันวงโปรมูสิกาฟื้นคืนชีพ กลับมามีกิจกรรมแข็งขันอีกครั้งหนึ่งโดยนักดนตรีชั้นนำรุ่นหนุ่มสาวของไทย สมาชิกหลายคนก็ล้วนเคยเป็นศิษย์และลูกวงของอาจารย์หม่อม)

นอกเหนือจากท่านจะเป็นนักบริหาร นักดนตรีและผู้อำนวยเพลงแล้ว อาจารย์หม่อมยังมีผลงานบทประพันธ์เพลงและบทเรียบเรียงเสียงประสานมากมาย ทั้งที่ทำขึ้นเพื่อรับใช้ เบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รวมทั้งที่ประพันธ์ขึ้นตามอัธยาศัยแห่งความเป็นศิลปิน เพื่อบรรเลงและฟังกันในหมู่ผู้ฟังทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผลงานบทประพันธ์เพลงของท่านมีมากมายและหลากหลาย อาทิ ดนตรีประกอบนาฏยศิลปบัลเล่ต์ เรื่องปางปฐม, เรื่องจันทกินรี และเรื่องศรีปราชญ์, บทโหมโรงกาญนาภิเษก, In Memoriam Princess Vibhavadi Rangsit, Concertino for Clarinet, Concertino for Oboe, Sonata for Strings, Fantasia & Fugue บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย ดนตรีประกอบการอ่านบทพระราชนิพนธ์ “พระมหาชนก” และบทเรียบเรียงเสียงประสานบทเพลงพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ บรมนาถบพิตร สกอร์โน้ตและบทบันทึกเสียงเพลงเหล่านี้จะคงอยู่เป็นมรดกวัฒนธรรมร่วมสมัยที่สำคัญของชาติเราสืบไป

จากผลงานดนตรีมากมายหลายด้านที่ทำมาอย่างสม่ำเสมอตลอดชีวิต ท่านจึงได้รับการยกย่องจากกระทรวงวัฒนธรรมให้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) เมื่อปี พ.ศ. 2537

อาทิตย์ดวงหนึ่งได้อัสดงลงแล้วตามสัจธรรมแห่งสังขาร แต่ผลงานและคุณูปการอันเปรียบเป็นแสงงามทรงพลังแห่ง ‘อัศนี’ (แปลว่า ‘สายฟ้า’) ก็จะยังคงโชติช่วงให้สุนทรียรสและเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้ฟังและศิลปินรุ่นหลังสืบไป ทีมงานรายการดนตรีคลาสสิกสถานี วิทยุจุฬาฯขอร่วมแสดงความคารวะและอาลัยอย่างสุดซึ้งในการจากไปของ ‘อาจารย์หม่อม’ ผู้เป็นที่เคารพรักของประชาคมดนตรีคลาสสิกเมืองไทยตลอดไป

พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง

โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี

นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์

สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา

(หนังสือกฤษณาสอนน้องคำฉันท์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส)