องค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้โลกคว้าโอกาสที่จะยุติการแพร่ระบาดของโควิด เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตลดลงสู่ระดับต่ำสุด

- ข่าวต้นชั่วโมง


องค์การอนามัยโลก เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่รายงานใหม่มีจำนวนลดลงอย่างมาก จึงเรียกร้องให้โลกคว้าโอกาสที่จะยุติการแพร่ระบาด นพ.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า โควิด-19 เป็นสาเหตุให้มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตหลายล้านคนนับตั้งแต่ปลายปี 2562 แต่จนถึงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตลดลงสู่ระดับต่ำสุด ทำให้มองเห็นจุดสิ้นสุดของการแพร่ระบาด ซึ่งเขาย้ำว่าที่สำคัญคือโลกจำเป็นต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ มิเช่นนั้นก็จะมีความเสี่ยงที่จะมีโควิดสายพันธุ์ใหม่มากขึ้น มีผู้เสียชีวิตมากขึ้น มีการหยุดชะงักที่มากขึ้น และความไม่แน่นอนที่มากขึ้น

ตามรายงานระบาดวิทยาล่าสุดขององค์การอนามัยโลก เกี่ยวกับโควิด-19 จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ลดลงร้อยละ 28 มาอยู่ที่ 3 ล้าน 1 แสนคนในช่วง 1 สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 กันยายน ต่อเนื่องจากที่ลดลงร้อยละ 12 ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนหน้า

ดร.มาเรีย ฟาน เคอร์โคฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคขององค์การอนามัยโลก เตือนว่า จำนวนผู้ป่วยที่ลดลงเกิดจากการที่หลายประเทศลดการทดสอบและการรายงานเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ซึ่งหมายถึงการที่เชื้อไวรัสโควิดยังคงมีอยู่ และยังมีความเป็นไปได้ที่การแพร่ระบาดจะกลับมารุนแรงหากเชื้อไวรัสโควิดที่มีการกลายพันธุ์เป็นเชื้อที่มีความรุนแรง

นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาด องค์การอนามัยโลก รายงานว่ามีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 605 ล้านคนและเสียชีวิตประมาณ 6 ล้าน 4 แสนราย แต่ในรายงานที่มีการเผยแพร่ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งวิเคราะห์จากอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศที่มีการแพร่ระบาดรุนแรง คาดว่ามีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ถึง 17 ล้านคนในปี 2563 และ 2564

ในคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกเพื่อหยุดสถานการณ์ของโรคระบาด มีการเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ เพิ่มการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเสี่ยงให้ครบถ้วน (100%) รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้สูงอายุ และยังคงให้มีการทดสอบเพื่อจัดลำดับไวรัสต่อไป

นพ.ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายฉุกเฉิน ขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า เราสามารถยุติการแพร่ระบาดนี้ไปด้วยกัน เมื่อทุกประเทศ ผู้ผลิต ชุมชน และบุคคลมีความร่วมมือ การระบาดจะค่อยๆ ลดลงเมื่อยังมีการเฝ้าระวังในระดับสูง เพราะเรายังคงมีไวรัสที่สามารถกลายพันธุ์ได้สูง

(Live) รายการ โลกใหม่กับวิจัยสังคม