หมู่บ้านภาษาสันสกฤต
2,275 views
0
0

เพลง Dheere Dheere Se
เป็นเวอร์ชั่นภาษาสันสกฤตของเพลง Dheere Dheere se Meri Zindagi mein Aana ซเดิมทีเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Aashiqui ปี 1990 นำแสดงโดย Rahul Roy และ Anu Aggarwal เพลงดั้งเดิมประพันธ์โดยศิลปินดูโอ้ Nadeem-Shravan และรีเมคในปี 2015 โดย Yo Yo Honey Singh ส่วนเวอร์ชั่นภาษาสันสกฤตที่ได้ฟังกันไปนั้นประพันธ์เนื้อร้องและขับร้องโดย Pankaj Jha

ช่วงปี 2016 ที่เขาแต่งเนื้อร้องเพลงนี้นั้น เขาศึกษาระดับปริญญาเอกวิชาภาษาสันสกฤต และสอนภาษาสันสกฤตในโรงเรียนมัธยม ที่มาของเพลงนี้น่าสนใจมาก กล่าวคือ นักเรียนคนหนึ่งถามเขาว่า ภาษาสันสกฤตนอกจากจะใช้ในเรื่องโศลกหรือมันตระในทางศาสนาแล้ว ยังมีที่ใช้อื่นอีกหรือไม่ Pankaj ตอบว่า ใช้กับเพลงก็ได้ นักเรียนไม่ยอมเชื่อ และท้าทายให้ Pankaj แปลเพลง Dheere Dheere se ซึ่งกำลังฮิตในตอนนั้นให้เป็นภาษาสันสกฤตให้ฟัง Pankaj สามารถแปลได้สำเร็จ และเมื่อเขานำมาลงในอินเตอร์เน็ตก็มีกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม

การแปลของ Pankaj ถือว่าได้สมมูลภาพกับต้นฉบับภาษาฮินดีเป็นอย่างดี เช่นในท่อนฮุคของเพลงที่ว่า
धीरे धीरे से मेरी ज़िंदगीइ में आना
धीरे धीरे से दिल को चुराना

Pankaj แปลเป็นภาษาสันสกฤตว่า
शनैः शनैः मम जीवने आगच्छ
शनैः शनैः मम हृदयं चोरय

ภาษาสันสกฤต

หากพูดถึงภาษาสันสกฤต ผู้ฟังส่วนใหญ่คงรู้จักเป็นอย่างดีในฐานะภาษาคลาสสิกสำคัญที่สุดภาษาหนึ่งของโลก ซึ่งมีความเก่าแก่โบราณมาก และมีระเบียบแบบแผนมากที่สุดภาษาหนึ่ง

ในประเทศไทย เรารู้จักภาษาสันสกฤตควบคู่กับภาษาบาลีซึ่งเป็นภาษาของพุทธเถรวาท จนบางครั้งเรียกควบรวมกันเป็น ภาษาบาลีสันสกฤต เราใช้สร้างคำศัพท์ต่างๆ มากมาย รวมทั้งใช้ตั้งชื่อบุคคลและสถานที่ โดยแผลงเสียงให้เข้ากับแบบไทยๆ เรามักถือกันว่าเป็นศัพท์สูงกว่าคำปกติ เช่น ศีรษะ แผลงจากคำว่า shirsha เราใช้เป็นคำสุภาพของ หัว หรือ บุตร แผลงจากคำว่า putra เราใช้เป็นคำสุภาพของ ลูก เป็นต้น

ในอินเดีย ภาษาสันสกฤตมีสถานะสูง ถือกันว่าเป็นภาษาศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นภาษาของคัมภีร์พระเวท ซึ่งสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณหลายพันปี ยุคก่อนที่ความเชื่อทางศาสนาของชาวอารยันในแถบอินเดียเหนือจะเริ่มพัฒนาไปเป็นศาสนาฮินดู และในยุคต่อมา การแผ่ขยายของศาสนาฮินดูไปยังอาณาจักรต่างๆ รอบด้าน ก็ทำให้ภาษาสันสกฤตเป็นบ่อเกิดของคำศัพท์ต่างๆ ของแทบจะทุกภาษาทั้งในอนุทวีปอินเดีย อ่าวเบงกอล และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมไปถึงอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ด้วยเลยทีเดียว

อิทธิพลภาษาสันสกฤตและการใช้งาน

• อย่างที่เราทราบกันดีด้วยว่าแม้แต่ภาษาทมิฬ ซึ่งเป็นภาษาคลาสสิกอีกภาษาของอินเดีย เป็นภาษาตระกูลดราวิเดียนที่แตกต่างกับอารยันอย่างสิ้นเชิง และผู้พูดภาษาทมิฬมักจะภูมิใจกับภาษาของตนจนไม่ค่อยยอมพูดภาษาฮินดีนั้น ก็ยังมีคำที่ได้รับอิทธิพลจากภาษาสันสกฤตปะปนเข้ามาอย่างมากมาย

• แม้จะส่งอิทธิพลต่อภาษารอบด้านถึงเพียงนี้ ทว่าตัวภาษาสันสกฤตที่บริสุทธิ์อันหมายถึงภาษาที่จัดระเบียบไวยากรณ์โดยปาณินิช่วง 5-600 ปีก่อนคริสตกาลนั้น อินเดียสมัยโบราณสงวนไว้เฉพาะสำหรับผู้มีวรรณะสูงร่ำเรียน และอันที่จริงเมื่อเร็วๆ นี้ก็ยังมีความคิดเช่นนี้อยู่ด้วยซ้ำ (กรณีอัมเบดการ์) ประกอบกับบริบทการใช้งานส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องทางศาสนาหรือวรรณกรรมร้อยกรองที่มีสำนวนสูงส่ง และความที่ไวยากรณ์ยาก สลับซับซ้อน และคำศัพท์ลึกซึ้งมาก ภาษาสันสกฤต จึงไม่ใช่ภาษาที่มีผู้ใช้งานในชีวิตประจำวัน ต่างจากภาษาอื่นๆ ในอินเดียเช่น ฮินดี อุรดู ทมิฬ เบงกาลี ปัญจาบี มราฐี หรือคุชราตี ที่มีผู้พูดอยู่ที่หลักสิบล้านร้อยล้าน ภาษาสันสกฤตมีผู้พูดทั่วอินเดียอยู่เพียงหลักหมื่นคนเท่านั้น

• แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ในบรรดาประชากรผู้พูดภาษาสันสกฤตเหล่านี้ หลายท่านอาจจะคิดว่า เป็นพวกนักบวชสาธุหรือพราหมณ์ หรือพวกประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น หากแต่ข้อเท็จจริงนั้นตรงกันข้าม หลายพันคนในนี้เป็นชาวไร่ชาวนาธรรมดาในหมู่บ้านที่ชื่อว่า มัตตูร์ (Mattur) ในมลรัฐกรรณาฏกะ ทางตอนใต้ของอินเดีย

หมู่บ้านสันสกฤต | Sanskrit Village

มัตตูร์ เป็นหมู่บ้านชนบทอันห่างไกล ในเขตศิวโมคคะ (Shivamogga) กรรณาฏกะ หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำตุงคะ หมู่บ้านที่มีประชากรประมาณ 5,000 คนแห่งนี้ เป็นที่รู้จักกันดีทั่วอินเดียในนาม หมู่บ้านสันสกฤต (Sanskrit Village) เพราะหมู่บ้านมัตตูร์ถือเป็นหนึ่งในชุมชนแนวหน้า ในการธำรงรักษาภาษาสันสกฤตในฐานะภาษาพูด ให้ยังมีชีวิตสืบต่อไป

Mattur | ภาพ: https://detechter.com/

• หมู่บ้านมัตตูร์ รวมถึงหมู่บ้านใกล้เคียงอีกแห่งที่ชื่อว่า โฮซาฮัลลี (Hosahalli) ซึ่งพูดภาษาสันสกฤตเหมือนกัน เดิมทีเป็นชุมชนพราหมณ์กลุ่มที่เรียกว่าสังเกตี ซึ่งย้ายมาจากทมิฬนาฑูเมื่อประมาณสองสามร้อยปีที่แล้ว ที่น่าสนใจคือ พราหมณ์กลุ่มนี้พูดภาษาสังเกตี ซึ่งเป็นภาษาลูกผสมระหว่างสันสกฤต ทมิฬ และมลยาฬัม และเมื่อหมู่บ้านขยายขึ้น มีคนจากหลายชุมชนมาอยู่รวมกัน ภาษาสันสกฤตมาตรฐานก็กลายเป็นภาษากลางในการสื่อสารของชุมชนควบคู่ไปกับภาษาถิ่นสังเกตี

• อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อปี 1982 นี้เอง เมื่อมีองค์กรชื่อว่า "Samskruta Bharathi" ได้มาจัดอบรมภาษาพูดสันสกฤตเป็นเวลา 10 วัน นั่นทำให้ผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร เกิดความกระตือรือร้นที่จะพูดภาษาสันสกฤตมากขึ้น น่าจะเป็นเพราะเดิมทีชุมชนของตนก็ผูกพันกับภาษาสันสกฤตมาก่อนแล้ว จนกระทั่งภาษาสันสกฤตได้กลายเป็นภาษาแรกของชุมชนแทนภาษาท้องถิ่นเดิมไปเลยทีเดียว

• ในโรงเรียนของหมู่บ้าน ภาษาสันสกฤตเป็นวิชาบังคับจนถึงระดับชั้นปีที่ 7 และเป็นภาษาแรกในการเรียนการสอนทั้งหมดของชั้นปีที่ 8 ถึง 10 เด็กนักเรียนทั้งหมดจะถูกสอนให้ไม่เพียงอ่านเขียนเท่านั้นแต่พูดคุยสนทนากันเป็นภาษาสันสกฤตด้วย

• นั่นหมายความว่า หากเราเดินทางไปเยี่ยมเยือนหมู่บ้านมัตตูร์ เราจะเห็นเด็กๆ ที่เล่นกันตามท้องถนนตะโกนพูดคุยกันเป็นภาษาสันสกฤต และแม้แต่เกษตรกรเวลาต้อนวัวควายของตน ก็ยังพูดกับวัวควายเป็นภาษาสันสกฤตด้วย

มิได้ปฏิเสธความสมัยใหม่

นี่มิได้หมายความว่าหมู่บ้านมัตตูร์แห่งนี้จะปฏิเสธความสมัยใหม่ แท้ที่จริงแล้วเยาวชนหลายคนจากหมู่บ้านก็ทำงานเกี่ยวกับไอที หรือไปทำงานข้างนอกมากมาย แต่ด้วยการปลูกฝังและสภาพแวดล้อมที่พูดภาษาสันสกฤตมาตั้งแต่เด็ก ทำให้กระบวนการเรียนรู้ภาษาสันสกฤตในหมู่บ้านแห่งนี้เป็นไปด้วยวิธีธรรมชาติ เหมือนการเรียนภาษาอื่นทั่วไป เด็กๆ จะเริ่มเรียนรู้ภาษาพูดสันสกฤตที่บ้านจากแม่ตั้งแต่ปฐมวัย ซึ่งต่างจากการเรียนภาษาสันสกฤตสมัยโบราณที่จะต้องเรียนในสำนักและครูผู้สอนต้องเป็นวรรณะพราหมณ์

แต่ในขณะเดียวกัน หมู่บ้านมัตตูร์ก็ยังคงรักษาขนบประเพณีดั้งเดิมในการเรียนภาษาสันสกฤต มีโรงเรียนและปาฐศาลาที่ถ่ายทอดความรู้ภาษาสันสกฤตในระดับสูงที่พ้นจากการสนทนาในชีวิตประจำวัน

ภาษาสันสกฤตในเมืองต่างๆ ของอินเดีย

นอกจากหมู่บ้านมัตตูร์แล้ว หมู่บ้านอื่นๆ ที่แม้จะเล็กกว่า แต่มีประชากรพูดภาษาสันสกฤตเป็นหลัก ก็ยังมีอยู่ตามเมืองต่างๆ ของอินเดีย ดังต่อไปนี้คือ
1. Jhiri, Madhya Pradesh
2. Sasana, Orissa
3. Baghuwar, Madhya Pradesh
4. Ganora, Rajasthan
5. Mohad, Madhya Pradesh
6. Bantoli, Uttrakhand
7. Hosahalli, Karnataka ซึ่งเป็นหมู่บ้านข้างเคียงกับมัตตูร์ อยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำตุงคะ และมักเป็นที่กล่าวถึงควบคู่กันเสมอ

เป็นที่น่าสนใจว่า หมู่บ้านเหล่านี้ โดยส่วนใหญ่เพิ่งจะฟื้นฟูภาษาสันสกฤตขึ้นมาในช่วงไม่กี่สิบปีมานี้ และเช่นเดียวกับมัตตูร์ มักจะเป็นผลงานขององค์กร Samskruta Bharathi นั่นเอง
________________
รายการปกิณกะอินเดีย
สุรัตน์ โหราชัยกุล และ ณัฐ วัชรคิรินทร์ ศูนย์อินเดียศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย