ตลาดสตรีมมิ่งในอินเดีย
1,051 views
0
0

เพลง Achyutam Keshavam Krishna Damodaram
เป็นเพลงร้องถวายหรือสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า ทางอินเดียจะใช้คำว่าเพลงจำพวก Bhajan เพลงนี้ก็สรรเสริญพระกฤษณะ เป็นเพลงเก่าแก่ น่าจะนำมาจากบทกวีประพันธ์โดย Adi Shankaracharya เพลงนี้มีคนนำมาร้องใหม่เยอะ คือมีหลายเวอร์ชั่น เวอร์ชั่นนี้ขับร้องโดย Chetan Soni ที่ผมไปรู้จักนักร้องคนนี้เพราะเขามีแฟนเป็นคนไทย แฟนเขาส่งมาให้ผมฟัง ฟังแล้วไพเราะดีก็เลยนำมาเปิดในวันนี้

26 มกราคม วันสาธารณรัฐอินเดีย

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับชาวอินเดียในวันสาธารณรัฐ คือวันที่ 26 มกราคม ทุกปีอินเดียจะฉลองวันนี้เพราะในวันนี้เมื่อปี ค.ศ. 1950 ได้มีการนำรัฐธรรมนูญอินเดียมาใช้เป็นครั้งแรก

ทุกปีที่เฉลิมฉลองวันสาธารณรัฐ รัฐบาลอินเดียก็จะประกาศรางวัลของรัฐบาลเพื่อให้เกียรติแก่ผู้ทำคุณงามความดีในหลายด้าน รางวัลเหล่านี้ก็จะเทียบเท่าเครื่องราชอิสิรายาภรณ์ของไทยเรา แต่เนื่องจากอินเดียเป็นสาธารณรัฐ เราก็ใช้คำว่ารางวัลหรือ Award ดูจะเหมาะสมดี

รางวัลหมวดหมู่ปัทมศรี (Padma Shri) มีชาวไทยที่ได้รับรางวัลในปีนี้ด้วย นั่นคือ ผศ.ดร.จิรพัฒน์ ประพันธ์วิทยา บุคคสำคัญของไทยด้านสันสกฤต

เคยเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในหลายเรื่องที่เกี่ยวกับสันสกฤต รวมถึงการร่วมก่อตั้งศูนย์สันสกฤตศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยศิลปากร ปัจจุบันบทบาทที่เด่นชัดของอาจารย์จิรพัฒน์ก็คือราชบัณฑิต ลืมบอกไปว่ารางวัลปัทมศรีที่อาจารย์จิรพัฒน์ได้รับอยู่ในด้าน วรรณคดีและการศึกษา (Literature and Education)

[ขอขอบคุณแฟนรายการชื่อเพ็ญพิสุทธิ์ ปานสายลมที่ส่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสุภาส จันทร โบส มาให้ แม้ว่าข้อมูลนี้จะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เราก็ดีใจที่มีคนฟังรายการ สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์]

สตรีมมิ่ง (streaming)

ง่าย ๆ เลย สตรีมมิ่งก็คือการรับส่งสัญญาณ คือถ่ายทอดไฟล์มัลติมีเดียซึ่งมีทั้งภาพและเสียงผ่านเครือข่ายระบบอินเทอร์เน็ตผ่านเทคโนโลยีใหม่ ๆ คือไม่ต้องดาวน์โหลดไฟล์จนครบเหมือนแต่ก่อน เช่น การ Live บน YouTube หรือ บน Facebook แต่สตรีมมิ่งที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้ก็จะเป็น Prime Video, Netflix, Disney+ ฯลฯ

เดี๋ยวนี้สตรีมมิ่งมีความสำคัญมาก ล่าสุดผมเพิ่งเปิดคอร์สไป ถามนิสิตรุ่นใหม่คือนิสิตขั้นปีที่ 1 กับชั้นปีที่ 2 นิสิตชั้นเรียนละประมาณ 50-60 ในนี้ประมาณร้อยละ 80 บอกผมว่างานอดิเรกเขาคือ Netflix

ตลาดสตรีมมิ่งใหญ่มาก ยิ่งมีอิทธิพลมากในช่วงโควิดระบาด

เพราะหลายคนไม่ประสงค์จะไปดูหนังในโรงเหมือนเดิม แต่ก็ยังมีคอหนังที่ยังไปชมภาพยนตร์ที่โรงหนังอยู่เพราะความสะใจ เพราะสีแสงเสียง เพราะขนาดจอ อีกปัจจัยหนึ่งที่น่าจะทำให้คนยังไปดูหนังในโรงอยู่เพราะถ้าหนังเรื่องใหม่ ๆ สตรีมมิ่งหลายแหล่งก็ไม่มีหนังใหม่ ถ้ามี ก็ต้องจ่ายเพิ่มอะไรทำนองนี้ ตลาดสตรีมมิ่งในอินเดียมีขนาดใหญ่ไม่น้อยเลย

ตลาดสตรีมมิ่ง (streaming) ในอินเดีย

ตลาดสตรีมมิ่งอินเดียอยู่ที่ประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี มีการ Subscribe อยู่ที่ประมาณ 100 ล้าน Subscription

Disney+ Hotstar มีประมาณ 46 ล้าน
Amazon Prime Video มีประมาณ 19 ล้าน
*Netflix มีเพียงประมาณ 5.5 ล้าน

หลายคนพิศวงมากว่าทำไม Netflix ซึ่งเป็นยักใหญ่ครองตลาดโลกไม่ประสบความสำเร็จมากนักในอินเดีย

พยายามศึกษากันมามากต่อมากแล้ว ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์กันมามากต่อมาก แต่ก็ยังดูไม่ประสบความสำเร็จมากนัก

ข้อมูลที่รู้กันก็คือ มากกว่า 200 ล้านครัวเรือนดูทีวีแน่ ๆ ค่าใช้จ่ายของ Pay TV ประมาณ 4 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน

ที่ Netflix ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หลัก ๆ เช่น ลดค่า Subscription เหลือเพียง 2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน ได้ลงทุนผลิตภาพยนตร์มากกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อผลิตภาพยนตร์และโชว์มากถึง 50 เรื่อง ในนี้มีภาพยนตร์ฮินดีกับโชว์ที่เป็นฮินดีมากถึง 30 รายการ ตรงนี้เราคงเห็นความสำคัญของภาษาฮินดีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นักวิเคราะห์มองว่า หลายรายการที่ Netflix ลงทุนลงแรงไป ยังไม่โดนใจผู้ชมชาวอินเดีย มีอยู่เรื่องสองเรื่องที่อยู่ในความนิยม

นักวิเคราะห์บางคนมองว่า ปัญหาคือการรับรู้ ผู้ชมยังมองว่า Netflix เน้นเรื่องต่างชาติ และตอบสนองชนชั้นสูงเสียเป็นส่วนใหญ่

Disney+ เน้นกีฬา cricket ที่คนอินเดียนิยมชมชอบมาก
Amazon Prime Video เน้นภาพยนตร์อินเดียกับซีรีส์ ซึ่งโดนใจคนอินเดียเยอะมาก

นัยสำคัญต่อไทยคืออะไร

เราจะต้องเข้าไปมีบทบาทในตลาดที่เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก่อนอื่นใดเราจำต้องเลิกการรับรู้แบบเดิม ๆ เสียก่อน

การรับรู้แบบเดิม ๆ ก็คือ เข้าใจว่าอินเดียทำหนังแต่แบบเต้นระบำ หรือจำพวกเทพปกรณัมเท่านั้น จริง ๆ แล้วเขามาไกลมาก และเข้าไปมีบทบาทในภาพยนตร์หรือละครที่หลายหลากชนิดผ่านสตรีมมิ่งแล้ว
________________
รายการปกิณกะอินเดีย
สุรัตน์ โหราชัยกุล และ ณัฐ วัชรคิรินทร์ ศูนย์อินเดียศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย