ธนาคารกลางอินเดียประกาศถอนธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปี
2,319 views
0
0

เพลง Dil Hai Chota Sa (หัวใจดวงน้อย)
เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ โรซา (Roja) ฉายในปี ค.ศ. 1992 โรซาเป็นภาพยนตร์ทมิฬ กำกับโดยมณิรัตนัม (Mani Ratnam) เพลงนี้ขับร้องโดยมินมินิ (Minmini)

[แปลท่อนแรกให้ฟังกัน]
Dil Hai Chhota Sa Chhoti Si Asha
หัวใจดวงน้อยดวงนี้ของฉัน และความปรารถนาอันน้อยนิดของมัน

Masti Bhare Man Ki Bholi Si Asha
ความปรารถนาที่ไร้เดียงสาของหัวใจช่างร่าเริงเหลือเกิน

Chand Taron Ko Chhune Ki Asha
ความปรารถนาที่จะเอื้อมมือไปถึงดวงดาวและดวงจันทร์

Asmano Mein Udne Ki Asha
ความปรารถนาที่จะโบยบินบนท้องฟ้า

ธนาคารกลางของอินเดียประกาศถอนธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปี

19 พฤษภาคม 2023 ธนาคารกลางของอินเดีย ซึ่งมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Reserve Bank of India หรือ RBI ได้ประกาศให้ยกเลิกธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปี

การประกาศยกเลิกนี้ทำให้หลายคนตกใจ เข้าใจว่าจะเป็นเหตุการณ์แบบเดียวกับวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 เมื่อนายนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) นายกรัฐมนตรีอินเดีย ได้ประกาศยกเลิกการใช้ธนบัตรมูลค่า 500 และ 1,000 รูปี

ต้องเข้าใจก่อนว่าการประกาศยกเลิกธนบัตรเมื่อปี 2019 กับการประกาศถอนเงินเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้นไม่เหมือนกัน

ยกเลิกธนบัตร กับ ถอนธนบัตร

การประกาศยกเลิกธนบัตรมูลค่า 500 และ 1,000 รูปีในปี 2019 คือการยกเลิกทันที ในบริบทของอินเดียศัพท์ภาษาที่ใช้คือ “demonetization” ซึ่งหมายความว่า ทันทีที่ประกาศก็คือยกเลิกเลย ใช้ไม่ได้แล้ว ใครมีธนบัตรมูลค่า 500 หรือ 1,000 รูปี ก็ต้องนำไปแลกธนบัตรใหม่ที่ธนาคาร ในนั้นมีธนบัตรมูลค่าใหม่ด้วย คือมูลค่า 2,000 รูปี

สำหรับครั้งนี้ปี 2023 ทางอินเดียประกาศถอน คือ “withdrawal” คือถอนธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปีออกจากระบบ และการถอนจะต่างจากการยกเลิก เพราะการถอนหมายถึงทุกคนยังใช้ธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปีได้อยู่ จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2023 ระหว่างนี้คือประมาณ 4 เดือนกว่า มีเวลามากพอที่ผู้คนจะใช้จ่ายตามปกติ ครั้นเมื่อธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปี เข้าไปสู่ธนาคารพาณิชย์แล้ว ธนาคารพาณิชย์ก็จะนำไปจัดการกับธนาคารกลางเอง

ทำไมต้องถอนธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปี

ธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปี นำมาใช้ครั้งแรกหลังจากการประกาศยกเลิกธนบัตรมูลค่า 500 กับ 1,000 รูปีในปี 2016 ก็เพราะว่าไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ในเวลานั้นที่ต้องนำธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปีมาใช้ก็เพราะว่า การยกเลิกธนบัตรมูลค่า 500 กับ 1,000 รูปีนำมาซึ่งการขาดแคลนเงินสด

เว็บไซต์แห่งหนึ่งรายงานว่า หลังจากการประกาศยกเลิกธนบัตรในปี 2016 เงินสดที่หายไปจากระบบมีมากถึงร้อยละ 86 ของจำนวนทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ทำให้ต้องมีธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปี ซึ่งมีค่าค่อนข้างมาก เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน แต่ปัจจุบันธนบัตรมูลค่าอื่น ๆ ก็เพียงพอแล้ว เพราะธนาคารกลางก็เลิกพิมพ์ธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปีมาพักหนึ่งแล้ว กล่าวอย่างเรียบง่ายคือ ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

ทำไมต้องประกาศถอนธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปีในวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะรัฐบาลหรือธนาคารกลางของอินเดียไม่ได้ให้เหตุผลเบื้องหลังของวันเวลาประกาศ

มีคนวิพากษ์วิจารณ์การประกาศถอนธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปีหรือไม่
นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งชี้ว่าวันเวลาดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า ซึ่งโดยปกติแล้วการใช้เงินสดจะพุ่งสูงขึ้นมากเพราะยังมีการซื้อเสียงอยู่ แต่ฝ่ายรัฐบาลก็ยืนกรานว่า ไม่มีเรื่องเช่นนั้น เพราะไม่ว่าอย่างไรก็จะถอนธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปีอยู่แล้ว และฝ่ายรัฐบาลก็บอกด้วยว่า เลิกพิมพ์ธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปีมาพักหนึ่งแล้ว

การถอนธนบัตร 2,000 รูปีจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจหรือไม่

ธนบัตรมูลค่า 2,000 รูปีที่หมุนเวียนอยู่ในปัจจุบัน อยู่ประมาณ 3.62 ล้านล้านรูปี (44.27 พันล้านดอลลาร์) ประมาณร้อยละ 10.8 ของสกุลเงินหมุนเวียนทั้งหมด กล่าวแบบฟันธงเลยคือ ไม่มีผลกระทบมากสักเท่าไร ส่วนหนึ่งก็เพราะในช่วงเวลาประมาณ 6 ปีเศษนับตั้งแต่รัฐบาลโมดียกเลิกธนบัตรมูลค่า 500 และ 1,000 รูปี ธุรกรรมดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซได้เจริญเติบโตไม่น้อยเลยทีเดียว

ที่ใช้คำว่า “จะไม่มีผลกระทบมากสักเท่าไร” หมายความว่า ยังมีธุรกิจที่อาจจะได้รับความไม่สะดวกอยู่บ้าง โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและกลางในด้านเกษตรกรรมและการก่อสร้าง
.
รายการปกิณกะอินเดีย วันเสาร์ 10.30 น. Chula Radio Plus
ผศ.สุรัตน์ โหราชัยกุล ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ และ ศูนย์อินเดียศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ณัฐ วัชรคิรินทร์ นักวิชาการอิสระ