อินเดียที่มั่งคั่ง ตามรายงานของโกลด์แมนแซคส์
754 views
0
0

เพลง Neele Gagan Ke Tale
เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ Hamraaz (คนสนิท) ฉายในปี ค.ศ. 1967 ดารานำภาพยนตร์นี้ก็เช่น ราช กุมาร (Raaj Kumar) สุนีล ทัตต์ (Sunil Dutt) วีมิ (Vimi) มุมตาซ (Mumtaz) ผู้กำกับและผู้ผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้คือบี. อาร์ โจปฑา (B.R. Chopra) เพลงนี้ขับร้องโดยมเหนทรา กาปูร์ (Mahendra Kapoor) ซึ่งเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในอินเดีย แต่เพลงที่ผู้คนชาวอินเดียระลึกถึง มเหนทรา กาปูร์ มากที่สุดไม่ใช่เพลงนี้ แต่เป็นเพลง “Mere Desh Ki Dharti” ในภาพยนตร์ Upkaar ฉายในปี ค.ศ. 1967

ที่เลือกเปิดเพลงนี้เพราะมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ฟังผมบรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับอินเดียบอกผมช่วงหลังการบรรยายว่า ท่านฟังรายการปกิณกะอินเดียแทบทุกตอนเลย บอกว่าชอบรายการนี้มาก แต่เลิกใช้วิทยุแล้ว ฟังทางโทรศัพท์ต่อกับลำโพง ท่านบอกว่าผูกพันกับอินเดียในด้านเดียว คือด้านเพลงและภาพยนตร์ คือในอดีตเคยไปดูหนังอินเดียจอใหญ่เป็นประจำ ปัจจุบันก็จะดูจำพวกซีรีส์ โดยเฉพาะจำพวกเทพปกรณัม ท่านบอกผมว่าเพลงที่ท่านชอบมากเป็นพิเศษก็คือเพลงที่เราเปิดไป ซึ่งจริง ๆ แล้วผมว่าก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคนรุ่นเก่าจำนวนไม่น้อยรู้จักเพลงนี้ดี น่าจะเป็นเพลงที่กลุ่มตลกนำมาทำเป็นเพลงขำขันล้อเลียนสไตล์อินเดียด้วย ท่านบอกว่าไม่แน่ใจว่าเพลงนี้แปลเป็นภาษาไทยถูกต้องหรือไม่ ถ้าเป็นไปได้อาจารย์ช่วยแปลให้ฟังทั้งเพลงเลยได้ไหม ขอแปลสักนิดก็พอ ถ้าแปลหมดก็จะเสียเวลารายการไปไม่น้อยเลย

Hey neele gagan ke tale
ใต้ท้องฟ้าสีคราม

Dhartii ka pyaar phale
ความรักแห่งแผ่นดินเบ่งบาน

Aise hii jag mei.N aate hai.N subahe.N
ณ ที่นี้ยามเช้าจะมาถึง

Aise hii shaam Dhale
ณ นี้ยามเย็นก็จะมา

Shabnam kii motii phoolo.N pe bhikre
ไข่มุกแห่งน้ำค้างยามเช้าโปรยลงมาบนดอกไม้

Dono.N kii aas phale
และความปรารถนาของทั้งสองก็งอกงาม

โกลด์แมนแซคส์ (Goldman Sachs) (นาที 6.30)

12 มกราคม 2024 โกลด์แมนแซคส์ (Goldman Sachs) ได้ตีพิมพ์รายงานชื่อ "The rise of Affluent India" หรือ “การผงาดขึ้นของอินเดียที่มั่งคั่ง”

รายงานฉบับนี้กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนชาวอินเดียแชร์กันเป็นจำนวนมาก แพร่กระจายกันอย่างรวดเร็ว มีชาวอินเดียจำนวนไม่น้อยด้วยที่แชร์รายงานฉบับนี้ ทั้ง ๆ ที่ตนไม่รู้ว่าสารัตถะสำคัญของรายงานเกี่ยวกับอะไรอย่างละเอียด

ก่อนอื่นใดเราคงต้องอธิบายให้ผู้ฟังทราบก่อนว่า โกลด์แมนแซคส์ คือบริษัทด้านหลักทรัพย์และการจัดการการลงทุนชั้นนำระดับโลก ซึ่งให้บริการทางการเงินที่หลากหลายแก่ฐานลูกค้าจำนวนมาก ลูกค้าของโกลด์แมนแซคส์มีหลายหลาก ไม่ว่าจะเป็นบรรษัท สถาบันการเงิน รัฐบาล บุคคลทั่วไป

การผงาดขึ้นของอินเดียที่มั่งคั่ง

วันนี้เราทั้งสองขอนำรายงานฉบับนี้มาย่อยหรืออธิบายให้ท่านผู้ฟังได้รับทราบ เนื้อหาสำคัญที่รายงานฉบับนี้ต้องการบอกคือ ชาวอินเดียที่มั่งคั่งอาจมีจำนวน 100 ล้านคนในเวลา 3-4 ปีจากนี้ไป

ชาวอินเดียที่มั่งคั่งเหล่านี้คือชาวอินเดียที่มีรายได้ประมาณ 10,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ประมาณ 8 แสนรูปี หรือประมาณ 350,000 บาท

คนเหล่านี้สำคัญทางเศรษฐกิจในแง่ที่ว่า พวกเขาเป็นผู้กำหนดเทรนด์การบริโภคและการสร้างความมั่งคั่งอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงส่งผลอย่างสำคัญต่อทุกสิ่งตั้งแต่สินค้าฟุ่มเฟือยไปจนถึงตลาดหุ้น ตั้งแต่รถ SUV ไปจนถึงเครื่องประดับ

(SUV ย่อมาจาก Sport Utility Vehicle สำหรับคนไทยก็จะประมาณรถอเนกประสงค์)

นักวิเคราะห์ของโกลด์แมนแซคส์กล่าวว่าชนชั้นนี้มีจำนวน 60 ล้านคนในปัจจุบัน แต่จำนวนนี้จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว คือประมาณร้อยละ 67 จะทำให้จำนวนดังกล่าวกลายเป็น 100 ล้านคนภายในปี 2027

ปัจจุบันประมาณร้อยละ 4 ของประชากรที่ทำงานมีรายได้มากกว่า 10,000 ดอลลาร์ต่อปี (ตัวเลขเกือบห้าเท่าของรายได้ต่อหัวที่ 2,100 ดอลลาร์ หรือประมาณ 75,000 บาท)

รายงานนี้ระบุว่า ชนชั้นนี้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ต่อปีระหว่างปี ค.ศ. 2019 ถึง 2023 เทียบกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 ในช่วงเวลาเดียวกัน

การเติบโตอย่างรวดเร็วของความมั่งคั่งนี้ยังหมายถึง

การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในสินทรัพย์ทางการเงินและทางกายภาพ รวมถึงหุ้น ทองคำ และทรัพย์สินในช่วงสามปีที่ผ่านมา รายงานฉบับนี้ระบุว่า “การเพิ่มขึ้นครั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับหุ้นและทองคำ ในขณะที่ราคาอสังหาริมทรัพย์มีอัตราการแข็งค่าที่สูงขึ้นในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา”

ครัวเรือนอินเดียมีทองคำอยู่ประมาณ 25,000 ตัน คิดเป็นร้อยละ 10-11 ของสต็อกทองคำที่มีอยู่จริงในโลก ตามข้อมูลของสภาทองคำโลก (World Gold Council)

ราคาทองคำเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 39,900 รูปีต่อ 10 กรัม ในเดือนมกราคม 2020 เป็นเฉลี่ย 62,200 รูปีต่อ 10 กรัม ในเดือนธันวาคม 2023 ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 65 มูลค่ารวมของสต็อกทองคำในครัวเรือนในอินเดียเพิ่มขึ้นจาก 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปี ค.ศ. 2019 ถึง ปี ค.ศ. 2023 ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นใน “อินเดียที่ร่ำรวย”

แม้ว่าราคาอสังหาริมทรัพย์จะไม่พุ่งสูงเท่ากับทองคำและหุ้น แต่ราคาอสังหาริมทรัพย์ในอินเดียก็มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตามข้อมูล Propequity Data ราคาอสังหาริมทรัพย์โดยเฉลี่ยในอินเดียเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 30 ในช่วงปีงบประมาณ 2019-23 เทียบกับการเพิ่มขึ้นที่ช้ากว่าประมาณร้อยละ 13 ในช่วงปีงบประมาณ 2015-19

นักวิเคราะห์ของโกลด์แมนแซคส์ชี้ว่าบัญชี “Demat” เพิ่มขึ้น 2.8 เท่าเป็น 114 ล้านในปี ค.ศ. 2023 และการเพิ่มขึ้นของการเป็นเจ้าของหุ้น และการลงทุนในกองทุนรวม

บัญชี Demat คืออะไร

ในอินเดีย นักลงทุนที่ต้องการเป็นเจ้าของหลักทรัพย์ เช่น หุ้น พันธบัตร หรือกองทุนรวม จะต้องเปิดบัญชี “Demat” ย่อมาจาก “Dematerialized” เป็นการแทนที่บันทึกทางกายภาพหรือใบรับรอง ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ไร้กระดาษ กล่าวอย่างเรียบง่ายคือ บัญชี “Demat” เป็นบันทึกทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ติดตามความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่ซื้อขายได้ของคุณ

หลักฐานที่ยืนยันความมั่งคั่งของชาวอินเดีย

ดังที่รายงานของโกลด์แมนแซคส์ได้กล่าวไว้ว่า ในเวลา 4 ปีจากนี้ ชาวอินเดียที่ 'ร่ำรวย' จะมีจำนวน 100 ล้าน คำถามที่ท่านผู้ฟังอาจจะต้องการถามในเวลานี้คือ รายงานฉบับนี้ใช้หลักฐานอะไรในการยืนยันเรื่องนี้ คำตอบคือ โกลด์แมนแซคส์ใช้ข้อมูลการยื่นภาษีเงินได้

ซึ่งเห็นได้ชัดว่า จำนวนผู้ที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีโดยระบุว่าพวกเขามีรายได้ต่อปีมากกว่า 1 ล้านรูปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 19 ต่อปี ในทางตรงกันข้าม การเติบโตโดยรวมของจำนวนผู้ยื่นภาษีเติบโตขึ้นเพียงร้อยละ 8 เท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงคาดหวังว่าแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไป

จริง ๆ แล้ว การใช้หลักฐานการยื่นภาษีก็หาใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้ State Bank of India หรือ SBI ซึ่งเป็นธนาคารข้ามชาติของอินเดียก็เคยใช้หลักฐานการยื่นภาษี เพื่ออธิบายเกี่ยวกับชนชั้นที่ร่ำรวยขึ้นของอินเดีย เมื่อปีที่แล้ว SBI ได้เสนอการวิจัยที่ระบุว่า รายได้เฉลี่ยเมื่อทศวรรษที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 4.4 แสนรูปี และตอนนี้อยู่ที่ 1.3 ล้านบาท โดยรวมงานวิจัยของ SBI เชื่อว่า ผู้คนจำนวนมากได้เปลี่ยนจากกลุ่มที่มีรายได้น้อยไปสู่กลุ่มที่มีรายได้สูงกว่า กล่าวอย่างเรียบง่ายก็คือ ไม่ว่าจะรายงานโดย SBI หรือ โกลด์แมนแซคส์ หรือจากที่อื่น ๆ อินเดียกำลังเจริญเติบโตในแง่ที่ว่าผู้คนมีรายได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ชาวอินเดียทุกคน

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมในอินเดีย แต่อำนาจการใช้จ่ายยังคงแตกต่างกันระหว่างผู้ที่มีรายได้สูงสุดและชนชั้นกลาง ด้วย GDP ต่อหัวประมาณ 2,100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ทำให้มีชาวอินเดียเพียงประมาณ 30 ล้านคนเท่านั้นที่สามารถซื้อรถยนต์ได้ แม้ว่าจะมีการออกบัตรเดบิตมากกว่า 960 ล้านใบแล้วก็ตาม และ 93 ล้านคนมีการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือแบบชำระเงินภายหลัง

เรื่องนี้สำคัญต่อไทยอย่างไร

มีความสำคัญไม่น้อยเลย โดยตรงเลยก็คือนักท่องเที่ยวอินเดียที่จะมาไทย เมื่อมีเงินเหลือ การท่องเที่ยวก็เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมผู้มีอันจะกิน ไทยเราปรับเปลี่ยนหลายสิ่งแล้วหรือยัง
.
รายการปกิณกะอินเดีย วันเสาร์ 10.30 น. Chula Radio Plus
รศ.สุรัตน์ โหราชัยกุล ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ และ ศูนย์อินเดียศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ณัฐ วัชรคิรินทร์ นักวิชาการอิสระ