ถอดใจความสุนทรพจน์ของโมดีในวันประกาศอิสรภาพ ปี ค.ศ. 2024
190 views
0
0

เพลง Kadam Kadam Badhaye Ja
เป็นเพลงมาร์ชแบบเร็วของกองทัพแห่งชาติอินเดีย (Indian National Army) นำโดยสุภาส จันทร โบส (Subhas Chandra Bose) เพลงนี้ประพันธ์โดย บัณฑิต วันศิธร ศุกละ (Pandit Vanshidhar Shukla) และเรียบเรียงโดยราม สิงห์ ฐากุรี (Ram Singh Thakuri)

เพลงนี้ถูกแบนในอนุทวีปอินเดียช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกแบนเพราะอังกฤษถือเป็นเพลงที่มีเนื้อหาใจความ “ยุยงปลุกปั่น” ต่อมาถูกยกเลิกในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1947 เพลงนี้ได้กลายเป็นเพลงรักชาติในอินเดีย และได้รับการตีความใหม่โดยนักดนตรีชาวอินเดียหลายคน รวมถึงซี. รามจันทร (C. Ramachandra) และเอ. อาร์. เราะห์มาน (A. R. Rahman) ปัจจุบันเพลงนี้เป็นเพลงประจำกองทัพบกอินเดีย

[แปลเนื้อเพลงส่วนที่เปิดไปให้ได้ทราบความหมายกัน]
Kadam kadam badaye ja
ก้าวไป ก้าวไปข้างหน้า
Khushi ke geeth gaaye ja
ขับร้องเพลงแห่งความสุขในขณะที่ก้าวไปข้างหน้า
Yeh zindagi he quam ke
ชีวิตนี้เป็นของมาตุภูมิของเรา
Tu quam pe lootaye ja
มอบชีวิตนี้เพื่อมาตุภูมิเถิด

เสียดายที่ไม่ได้เปิดให้ฟังทั้งหมด เพราะมีอยู่ตอนหนึ่งที่เนื้อร้องมีคำว่า “Challo Dilli” ซึ่งนับเป็นวลีเด็ดที่เมื่อกล่าวถึง สุภาส จันทร โบส “Challo Dilli” แปลว่า ไปเดลีกันเถิด คือไปไล่อังกฤษออกจากอินเดียหรือยึดเมืองหลวงคืน

ถอดใจความสุนทรพจน์ของโมดีในวันประกาศอิสรภาพ ค.ศ. 2024 (นาที 5.35)

วันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2024 นายนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) ได้ชักธงชาติขึ้นที่ Red Fort และได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อประเทศเมื่อเวลา 07:30 น. ประมาณ 09:00 น. เวลาไทย ซึ่งโมดีทำเช่นนี้มาเป็นเวลา 11 ปีแล้ว

โดยปกติแล้ว ใจความของสุนทรพจน์มีประเด็นเกี่ยวกับความสำเร็จในอดีต สรุปเป้าหมายและนโยบายในอนาคต และแสดงความเคารพต่อนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพ การกล่าวสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรีตามมาด้วยขบวนพาเหรดครั้งใหญ่ที่จัดแสดงความกล้าหาญทางทหาร ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอินเดีย ในช่วงเย็นจะมีการประดับไฟอาคารสำคัญและอนุสาวรีย์ต่าง ๆ ช่วยเพิ่มบรรยากาศแห่งความรื่นเริง

เว็บไซต์แห่งหนึ่งรายงานว่า ครั้งนี้โมดีได้กล่าวสุนทรพจน์นานถึง 98 นาที ซึ่งทำให้เป็นการกล่าวสุนทรพจน์ที่ยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีมาของนายกรัฐมนตรีอินเดียในวันประกาศอิสรภาพ กล่าวคือ โมดีทำลายสถิติการกล่าวสุนทรพจน์ของตนนาน 96 นาทีเมื่อปี ค.ศ. 2016 เมื่อสุนทรพจน์มีความยาวถึง 98 นาที หรือประมาณ 20 หน้ากระดาษ A4 สิ่งที่เราคงทำได้คือคัดสาระสำคัญมาเล่าให้ผู้ฟังได้ทราบกัน

ใจความสำคัญของสุนทรพจน์โมดีในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2024

แบ่งออกเป็น 28 ข้อ ได้แก่

1. ระลึกคนสำคัญของอินเดียในอดีต ในประเด็นนี้โมดีกล่าวถึงทั้งหมด 6 คน คือ (1) มหาตมา คานธี ผู้ใช้สัตยาเคราะห์หรืออารยขัดขืนเพื่อให้ได้มาซึ่งเอกราช (2) ภคัต สิงห์ (Bhagat Singh) (3) สุขเทพ (Sukhdev) (4) ราชคุรุ (Rajguru)

โมดีกล่าวว่า “วันนี้ผมขอแสดงความเคารพต่อทุกคนที่มีส่วนร่วมและสละชีวิตในขบวนการเพื่ออิสรภาพของเรา ผมน้อมคำนับพวกเขาอย่างถ่อมใจที่ทำให้เรามีชาติที่เป็นอิสระ”

นอกจากบุคคลสำคัญที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพอินเดียแล้ว โมดีย้ำเตือนด้วยว่า ปีนี้เป็นปีสำคัญอีกที่เราจะระลึกถึง (5) ศรีเอาโรพินโท (Sri Aurobindo) และ (6) สวามี ทยานันท์ สรัสวตี (Swami Dayanand Saraswati) ในวาระ 150 ปีชาตกาล ซึ่งทั้งสองมีบทบาทสำคัญยิ่งในวิถีจิตวิญญาณ และการกระทำที่ดีงามเพื่อสังคม

หลังจากนั้นโมดีพูดถึง 500 ปี ชาตกาลของนักรบหญิงคนสำคัญชื่อ (7) รานี ทุรคาวตี (Rani Durgawati) ตามด้วย 525 ปีชาตกาลของ (8) มีราบาย (Meerabai) กับชีวิตแห่งจิตวิญญาณ

2. แสดงความเสียใจต่อประชาชนชาวอินเดียที่ตกเป็นเหยื่อของภัยธรรมชาติ โดยกล่าวว่า “ครั้งนี้ภัยพิบัติทางธรรมชาติทำให้เกิดความทุกข์ยากอย่างคาดไม่ถึงในหลายพื้นที่ของประเทศ ผมขอแสดงความเสียใจต่อทุกครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตครั้งนี้”
3. ยืนยันว่ารัฐบาลกลางจะเดินหน้าต่อไป จะทำงานกับรัฐบาลมลรัฐในการแก้ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่มลรัฐมณีปุระ (Manipur)
4. ย้ำเตือนจุดยืนเรื่องการเข้าใจประวัติศาสตร์อินเดียที่ถูกผู้คนจากภายนอกเข้ามารุกราน ปล้น และกดขี่เป็นเวลานาน วันนี้ที่อินเดียมีอิสรภาพได้ก็เพราะมีคนที่เสียสละต่อสู้ ไฟของการต่อสู้ดำเนินมาโดยตลอด และนักต่อสู้เหล่านี้ก็มีหลายคนหลายภูมิหลัง ไม่ว่าจะอาชีพหรืออายุ ตามมาด้วยการปลุกไฟแห่งความเสียสละเพื่อเราจะสร้างตำนานกันต่อไป เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในอดีตที่เราระลึกถึงในวันนี้ การกระทำของเราก็จะมีผลต่อไปอย่างสืบเนื่อง
5. ความสำคัญของ Democracy (ประชาธิปไตย) Demography (ประชากร) และ Diversity (ความหลากหลาย) เป็นพลังสำคัญของชาติอินเดีย “มีศักยภาพที่จะเติมเต็มทุกความฝันของอินเดียได้”
6. ความสำคัญของเยาวชนกับเทคโนโลยี มีการยกตัวอย่างสำคัญ เช่น startup, Digital India, Smart City
7. ความสำคัญของเทคโนโลยี
8. ความสำคัญของผู้หญิง
9. ความสำคัญของแรงงาน ผู้ประกอบการขนาดเล็ก และผู้คนทุกอาชีพ
10. การยกตัวอย่างความสำเร็จของการประชุม G20 ที่ทำให้หลายส่วนของอินเดียเป็นที่รู้จักในบรรดาผู้นำประชาคมระหว่างประเทศ
11. การเปลี่ยนแปลงของระเบียบโลก จากโควิด-19 เป็นต้นมา อินเดียได้กลายเป็นกระบอกเสียงของประเทศโลกใต้
12. ความสำคัญของการจัดการเรื่องน้ำท่ามกลางความท้าทายทางสิ่งแวดล้อม
13. ความสำคัญของสหกรณ์
14. การทะยานขึ้นมามีเศรษฐกิจที่ใหญ่อันดับ 5 ของโลก โดยวิธีต่าง ๆ รวมถึงการปฏิรูประบบราชการ และภายในเวลาไม่เกิน 5 ปี เศรษฐกิจอินเดียจะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
15. งบประมาณที่เพิ่มขึ้นในหลายกระทรวงเพื่อช่วยเหลือผู้คนด้านต่าง ๆ รวมถึงการทำให้ปุ๋ยมีราคาถูก การส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง การช่วยเหลือให้ผู้คนมีบ้าน การช่วยเหลือเรื่องราคาบริการอินเทอร์เน็ต
16. อัตราจำนวนคนจนที่ลดลงและเข้าสู่ชนชั้นกลาง
17. เรื่องเงินเฟ้อ
18. พลังงานทดแทน
19. คนพิการ
20. จาก 5G สู่ 6G
21. ความสำคัญของคมนาคม ถนน รถไฟ ภารกิจทางทะเล ฯลฯ
22. ความมั่นคง การรักษาดินแดน การเฝ้าระวังตามชายแดน และความพร้อมทางทหารหากเกิดสงคราม
23. การสร้างรัฐสภาใหม่
24. อินเดียที่พัฒนาแล้ว
25. เอกภาพของชาติ ความเป็นปึกแผ่นของชาติท่ามกลางความหลากหลาย
26. มาตรการต่าง ๆ ในยามที่เกิดภันพิบัติ
27. การส่งเสริมสาธารณสุข - โยคะ
28. การต่อสู้กับการทุจริต การเลือกที่รักมักที่ชัง และการอ่อนข้อปลอบโยนต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

สุนทรพจน์ช่วงสุดท้ายของโมดี

“สมาชิกครอบครัวของผมในทุกมุมของอินเดีย สมาชิกครอบครัวของผมทั่วทุกมุมโลก ผมขอส่งความปรารถนาดีถึงทุกคนอีกครั้งในเทศกาลอันเป็นมงคลแห่งวันประกาศอิสรภาพ... [นี่]เป็นช่วงเวลาแห่งหน้าที่ของพวกเราทุกคน ...เป็นช่วงเวลาที่เราทุกคนจะทำอะไรบางอย่างเพื่อพระแม่ภารตี ในช่วงสงครามอิสรภาพ คนรุ่นที่เกิดก่อนปี ค.ศ. 1947 ได้มีโอกาสสละชีวิตเพื่อประเทศชาติ พวกเขาไม่ทิ้งโอกาสที่จะตายเพื่อประเทศชาติ แต่เราไม่มีโอกาสตายเพื่อประเทศชาติ แต่โอกาสที่จะได้อยู่เพื่อชาติยิ่งใหญ่กว่านี้ก็ไม่มีอีกแล้ว เราต้องใช้ชีวิตทุกช่วงเวลาเพื่อประเทศ และด้วยปณิธานนี้ เราจำเป็นต้องวางกรอบใหม่เพื่อเติมเต็มความฝันของเพื่อนร่วมชาติกว่า 1,400 ล้านคน... เมื่อธงไตรรงค์ [Tiranga] ถูกชักขึ้นในปี ค.ศ. 2047 โลกก็จะยกย่องอินเดียที่พัฒนาแล้ว ด้วยความเชื่อและความมุ่งมั่นนี้ ผมขออวยพรให้ทุกท่าน ผมขอแสดงความยินดีอย่างที่สุด”

“ชัย ฮินด์, ชัย ฮินด์, ชัย ฮินด์”

“ขอพระแม่ภารัตจงมีชัย ขอพระแม่ภารัตจงมีชัย ขอพระแม่ภารัตจงมีชัย
(Bharat Mata ki Jai, Bharat Mata ki Jai, Bharat Mata ki Jai!)”

“Vande Mataram, Vande Mataram, Vande Mataram”
“ขอบคุณครับ”

รายการปกิณกะอินเดีย วันเสาร์ 10.30 น. Chula Radio
รศ.สุรัตน์ โหราชัยกุล ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ และ ศูนย์อินเดียศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ณัฐ วัชรคิรินทร์ นักวิชาการอิสระ