ภาพยนตร์ฮินดีที่ชื่อ Vadh
300 views
0
0

เพลง Vadh Title Track
เราเปิดเพลง “Title Track” ของภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า วัธ (Vadh) ซึ่งก็คือภาพยนตร์ที่เราทั้งสองคนจะพูดถึงวันนี้

คำว่า Vadh (นาที 3)

ภาพยนตร์ Vadh เข้าฉายในปี ค.ศ. 2022 กำกับโดยยัสปาล สิงห์ สันธู (Jaspal Singh Sandhu) และราชีพ พรรณวาล (Rajiv Barnwal) ทั้งสองเป็นผู้เขียนบทด้วย ดารานำภาพยนตร์เรื่องนี้คือสัญชัย มิศรา (Sanjay Mishra) นีนา คุปตะ (Neena Gupta) มาณพ วีช (Manav Vij) และ เสารัภ สัจจเทพ (Saurabh Sachdeva)

ก่อนที่เข้าสู่เนื้อเรื่อง ใคร่เตือนท่านผู้ฟังก่อนว่า หากท่านไม่ต้องการฟังเราก่อนดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ท่านก็หยุดฟังได้ แล้วค่อยกลับมาฟังใหม่อีกครั้ง ถ้าจำไม่ผิดภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถชมผ่าน Netflix ได้

ก่อนที่เราจะเข้าสู่เนื้อเรื่อง คุณณัฐช่วยอธิบายก่อนว่า Vadh แปลว่าอะไร

คำว่า “Vadh” (वध) เป็นศัพท์ภาษาฮินดีที่มาจากสันสกฤต แปลว่า “ฆ่า” ในแวดวงฮินดีทั่วไป หรือฮินดูสตานี (Hindustani) เรามักไม่คุ้นเคยกับศัพท์คำนี้ เพราะศัพท์คำนี้ใช้ในภาษาฮินดีระดับสูง หรือฮินดีแบบสุทธิ (Shuddh Hindi) หรือฮินดีแบบบริสุทธิ

เรื่องย่อภาพยนตร์ Vadh

ศัมภูนาถ มิศรา (Shambhunath Mishra) ซึ่งแสดงโดยสัญชัย มิศรา เป็นชายชราที่อาศัยอยู่กับภรรยาของเขาชื่อ มัญชุ มิศรา (Manju Mishra) ซึ่งแสดงโดยนีนา คุปตะ ทั้งสองอาศัยอยู่ในบ้านทรุดโทรมในเมืองควาลิยัร (Gwalior)

ศัมภูนาถเป็นคนหาเงิน ส่วนมัญชุเป็นแม่บ้าน แต่ทั้งสองก็ลำบากมาก ศัมภูนาถพึ่งพาอาศัยเงินบำนาญ และสอนหนังสือเด็กที่บ้าน เงินบำนาญได้หลังจากปลดเกษียณจากอาชีพครู

ทั้งสองมีบุตรชายคนเดียวชื่อ กุดดุ (Guddu) ซึ่งตั้งรกรากอยู่ในสหรัฐอเมริกากับครอบครัว บุตรคนนี้ไม่เคยห่วงใยพ่อแม่ของตนเลย

ตัวมัญชุต้องการให้ศัมภูนาถขอเงินจากลูกที่ตั้งรกรากอยู่ในสหรัฐฯ ทว่าตัวศัมภูนาถไม่อยากจะขอเพราะตนก็ไม่อยากลดศักดิ์ศรีของตน ทุกครั้งที่จะสื่อสารกับลูก ทั้งสองถึงกระทั่งต้องไปร้านอินเตอร์เน็ตเพื่อสไกป์กับกุดดุ ดูจากภาพยนตร์แล้ว ร้านก็ไม่น่าจะไกลมาก แต่ทั้งสองโดยเฉพาะมัญชุก็ไม่สะดวกเลย ส่วนหนึ่งเพราะเธอปวดเข่า

ตอนที่ทั้งสองสไกป์กับลูก กุดดุก็ดุพ่อแม่ของตน ดุว่าทำไมถึงสไกป์ช่วงดึก ส่วนภรรยาของกุดดุไม่สนใจเลยที่จะมีความสัมพันธ์กับพ่อแม่สามี ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางข้อเท็จจริงที่ว่าครอบครัวของกุดดุในสหรัฐฯ ไม่ได้กลับมาอินเดียนานแล้ว ตอนสไกป์ครั้นเมื่อพ่อแม่จะขอเงินจากลูก ลูกสาวตัวเล็กของกุดดุกำลังหงุดหงิดอะไรอยู่ กุดดุก็เลยตัดสายสไกป์เลย

ที่กุดดุแสบมากก็เพราะพ่อศัมภูนาถเป็นคนกู้เงินธนาคารมากถึงหนึ่งล้านรูปีเพื่อส่งกุดดุเรียนต่อที่สหรัฐฯ การกู้นี้คือการกู้แบบดอกเบี้ยลอยตัว และธนาคารก็หักบำนาญส่วนหนึ่ง แต่ 1 ล้านรูปีก็ไม่พอ ดังนั้นศัมภูนาถจึงกู้เพิ่มโดยจำนองบ้านของตนไว้กับ ประชาบดี ปาณเฑย์ (Prajapati Pandey) อีก 1.5 ล้านรูปี กู้ทั้งหมด 2.5 ล้านรูปี เพื่อส่งลูกชายไปศึกษาต่อที่สหรัฐฯ

คราวนี้ความลำบากก็มาเยือนสิ เพราะเงินบำนาญก็ไม่พอ ส่วนหนึ่งธนาคารก็หักไป ไหนจะต้องผ่อนประชาบดีอีก เงินที่หาได้จากการสอนพิเศษก็น้อยนิด ทำให้บางครั้งก็จ่ายค่างวดให้ประชาบดีไม่ได้ ตัวกุดดุเคยสัญญาว่าจะจ่ายเงินกู้ให้ มาบัดนี้ไม่แยแสกับชะตากรรมอันโหดร้ายที่พ่อแม่ของตนกำลังเผชิญ

ประชาบดีที่ให้ศัมภูนาถกู้ประมาณแบบนอกระบบก็ใช่ว่าจะเป็นคนดี เป็นอันธพาลมีประวัติอาชญากรรม และเป็นลูกน้องของผู้มีอิทธิพลในเมือง ประชาบดีก็หาประโยชน์จากศัมภูนาถเพิ่มอีก เช่น นำโสเภณีมาที่บ้านและมีเพศสัมพันธ์ในห้องนอนของศัมภูนาถกับมัญชุ ทิ้งถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว กินเนื้อสัตว์และดื่มเหล้าที่บ้านของทั้งสอง แม้ประชาบดีจะรู้ด้วยว่าทั้งสองทานมังสวิรัติและไม่ดื่มสุรา

ครั้นเมื่อกุดดุที่สหรัฐฯ ตัดสินใจส่งเงินมาให้พ่อแม่จำนวน 5,000 รูปี หลังจากมัญชุโทรมิสคอลไปหากุดดุ ศัมภูนาถก็ไปเบิกเงินที่ธนาคารจำนวน 2,500 รูปี แต่ประชาบดีก็รีบเก็บเงินจำนวนหนึ่งจากศัมภูนาถ กล่าวอย่างเรียบง่ายคือมันแทบจะไม่เหลือหนทางอะไรอีกแล้ว

ในภาพยนตร์เรื่องนี้มีเด็กหญิงชื่อ นัยนา (Naina) ที่เรียนพิเศษกับศัมภูนาถเข้ามาเติมเนื้อเรื่องอย่างน่าสนใจมาก นัยนาเป็นเด็กร่าเริงในโรงเรียน เปรียบเสมือนแหล่งความสุขเพียงแหล่งเดียวในชีวิตของทั้งสอง

ตัวละครสำคัญอีกคนคือ ศักติ สิงห์ (Shakti Singh) เป็นตำรวจทุจริตที่อยู่ในบัญชีเงินเดือนของประชาบดี นายตำรวจคนนี้เรียกร้องสินบนมากขึ้นเพราะกิจกรรมที่เข้าข่ายอาชญากรรมของประชาบดีเพิ่มขึ้น ตัวประชาบดีก็รู้สึกรำคาญนายตำรวจศักติ ทว่าประชาบดีก็ใช่ว่าจะมีทางเลือกอื่นไม่ เพราะนายตำรวจคนนี้มีอำนาจหน้าที่ในการปราบปรามอาชญากรรมในเขตที่ประชาบดีก่ออาชญากรรม อีกอย่างคือประชาบดีไม่ประสงค์ที่จะให้เรื่องนี้บานปลายจนเข้าหูดาดา (Dada) ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น

ประชาบดีตัดสินใจขายบ้านของศัมภูนาถ และขู่ให้ทั้งสองย้ายออกภายในวันสองวัน ขณะเดียวกันเขาก็จ้องต้องการนัยนา เด็กหญิงที่มาเรียนพิเศษที่บ้านศัมภูนาถมาเป็นเหยื่อเพศสัมพันธ์ ซึ่งศัมภูนาถรักดุจดังลูกหลาน

ศัมภูนาถทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของประชาบดี ตัดสินใจไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ แต่พบว่าประชาบดีกับนายตำรวจศักติกำลังพูดคุยกันอย่างหงุดหงิด หลังจากประชาบดีออกจากสถานีตำรวจไป ศัมภูนาถก็ขอให้นายตำรวจศักติแก้ไขปัญหาของเขา ซึ่งนายตำรวจคนนี้ก็ปฏิเสธที่จะช่วยเหลืออย่างตรงไปตรงมา

พูดง่าย ๆ คือศัมภูนาถไม่เหลือช่องทางที่จะแก้ปัญหาได้แล้ว มิหนำซ้ำประชาบดียังกลับมาทำร้ายเขาอีก จุดแตกหักที่ทำให้ศัมภูนาถทนไม่ได้อีกต่อไปก็เมื่อประชาบดีขอให้ศัมภูนาถนำเด็กหญิงนัยนามาให้ตนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง โดยประชาบดีมีข้อเสนอว่าจะไม่คิดดอกเบี้ยเขาเป็นเวลาหนึ่งพร้อมกับหักเงินต้นที่เขาได้กู้ยืมจากประชาบดีด้วย จุดแตกหักนี้ทำให้ศัมภูนาถแทงคอประชาบดีด้วยไขควง เมื่อมัญชุกลับจากวัดมาบ้านก็ตกใจที่ประชาบดีเสียชีวิตแล้ว

ศัมภูนาถขอให้ภรรยาสงบ และเริ่มกำจัดศพของประชาบดี คือหั่นศพเป็นชิ้นเล็ก ๆ บรรจุลงในถุงปอกระเจา นั่งรถไปนอกเมือง และทิ้งถุงปอกระเจาในป้อมร้าง หลังจากนั้นเขาก็กลับไปที่ป้อม เผาถุงปอกระเจา เก็บกระดูก กลับไปที่เมือง และผสมกระดูกที่โรงโม่แป้งสาลี

มัญชุไม่เห็นด้วยกับการกระทำของสามีตน เพราะสำหรับมัญชุ การฆ่าคนถือเป็นการกระทำที่ผิดศีลธรรมทางศาสนาฮินดูที่ยึดมั่นอย่างหนักแน่น แต่หลังจากพักหนึ่งศัมภูนาถก็ได้เล่าเรื่องที่ประชาบดีจะใช้นัยนาเป็นเหยื่อทางเพศ

และแล้วนายตำรวจศักติก็พยายามจะเอาผิดกับศัมภูนาถให้ได้ เพราะโทรศัพท์ของประชาบดีตกอยู่ในเบาะโซฟาที่บ้านของศัมภูนาถ ขณะเดียวกันศัมภูนาถก็เดินทางไปสารภาพให้นายตำรวจคนหนึ่งที่สถานีตำรวจ แต่นายตำรวจคนนั้นมองเป็นเรื่องตลก เข้าใจว่าศัมภูนาถกำลังเล่าเรื่องแต่ง ดังที่เป็นแบบเรื่องเล่าในนิตยสารฮินดี

ท้ายที่สุดนายตำรวจศักติก็ถอยออกจากเรื่องนี้ เพราะโทรศัพท์ของประชาบดีที่อยู่กับศัมภูนาถมีวีดีโอคลิปความสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่างนายตำรวจศักติกับภริยาของนักการเมืองท้องถิ่น

หลังจากความวุ่นวายทั้งหมดนี้ ศัมภูนาถและมัญชุมอบบ้านของพวกเขาให้แก่นัยนาและครอบครัวของเธอซึ่งมีฐานะที่ย่ำแย่กว่าเขาทั้งสอง แล้วเดินจากไป

ความหมายและคุณค่าของภาพยนตร์เรี่อง Vadh

ต่อจากนี้ไปจะขอตีความหรือให้ความหมายและคุณค่าของภาพยนตร์เรี่องนี้ ซึ่งถือเป็นมุมมองของเราทั้งสอง ผู้ฟังไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับเรา เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะรับรู้เหมือนกัน

สำหรับผม ภาพยนตร์เรื่องนี้สุดยอดมาก เราอาจย้อนมาดูที่ชื่อภาพยนตร์กันก่อน คำว่า “Vadh” ที่แปลว่าฆ่านั้น อาจตีความได้ว่า หลายอย่างถูกฆ่าให้ตายไป ไม่ใช่เพียงแค่ศัมภูนาถฆ่าประชาบดีทางกายเท่านั้น ความฝันของทั้งศัมภูนาถและมัญชุถูกฆ่าให้ตายไปด้วย ความฝันหรือความคาดหวังว่าทั้งสองจะพอพึ่งพาลูกกุดดุได้ก็ถูกสังหาร เมื่อลูกรู้สึกรำคาญที่พ่อแม่ติดต่อไปทุกครั้ง ความฝันที่จะได้มีปฏิสัมพันธ์กับลูกสะใภ้และหลานก็ถูกฆ่าตายอีก ลูกสะใภ้ไม่สนใจที่จะคุยด้วยเลย หลานก็ไม่ได้อุ้ม

ความหวังที่ว่าชีวิตคงจะดีขึ้นบ้างก็พินาศถูกฆ่าตายหมด ธนาคารก็เก็บดอกเบี้ยเหมือนเดิม ที่กู้นอกระบบก็แย่อีก เพราะมีคนอย่างประชาบดีคอยเอาเปรียบ ซึ่งในที่สุดเมื่อนัยนาเป็นแหล่งความสุขสุดท้ายก็จะถูกสังเวยด้วยคนชั่วอีก ศัมภูนาถจึงต้องฆ่าเพื่อไม่ให้ใครมาฆ่าความสุขของเขาได้อีก ในตอนท้ายทั้งศัมภูนาถและมัญชุก็ขอฆ่าอดีตหรือความทรงจำอันขมขื่นโดยการขอเดินจากไปจากทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเริ่มความฝันใหม่

การถ่ายทำภาพยนตร์ก็น่าอัศจรรย์ยิ่ง ฉากตรอกซอกซอยของควาลิยัร จนถึงป้อมขนาดใหญ่และสถานที่ทางประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่น่ายกย่องมาก คือถ่ายให้เห็นถึงความเป็นเมืองได้อย่างน่าสนใจยิ่ง

ดนตรีประกอบฉากที่ศัมภูนาถทิ้งศพประชาบดี ทำให้รู้สึกหนาวสั่น ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งเพราะนำดนตรีมาประกอบอย่างดีเยี่ยม และไม่มีความจำเป็นต้องแสดงฉากนองเลือดใด ๆ เลย

ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผู้ชมอย่างผมต้องไม่ละทิ้งรายละเอียดใดเลย

บทสนทนาและอุปกรณ์ประกอบฉากสุดยอดมาก ชอบฉากที่หนูหนีจากกับดักหนูที่จับเป็น ๆ ซึ่งศัมภูนาถนำกับดักแบบสปริงมาใช้ คือจะเห็นความคล้ายคลึงกันระหว่างลำดับกับการที่ประชาบดีถูกสังหาร

สำหรับผมซึ่งเป็นคอหนังจำพวกสมจริงและระทึกขวัญ ขอตะเบ๊ะทำความเคารพทุกคนที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สำเร็จได้ ว่าด้วยความสมจริง นอกจากทุกคนที่ร่วมสร้างภาพยนตร์นี้แล้ว ต้องขอชื่นชมสัญชัย มิศราและนีนา คุปตะ ซึ่งสำหรับผมแล้วนับว่าเป็นดาราชั้นเอกสองคนสำคัญแห่งวงการภาพยนตร์อินเดียเลยก็ว่าได้

รายการปกิณกะอินเดีย วันเสาร์ 10.30 น. Chula Radio
รศ.สุรัตน์ โหราชัยกุล ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ และ ศูนย์อินเดียศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ณัฐ วัชรคิรินทร์ นักวิชาการอิสระ